"เบอร์นันเก้"ยอมรับศก.สหรัฐอาจถดถอยจากภาวะตลาดอสังหาฯตกต่ำ,วิกฤตตลาดสินเชื่อ

          เบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยอมรับเป็นครั้งแรกว่า เศรษฐกิจสหรัฐอาจเข้าสู่ภาวะถดถอย เนื่องจากตลาดอสังหาริทรัพย์ตกต่ำลง และวิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้นในตลาดสินเชื่อและตลาดการเงิน 
          เบอร์นันเก้แถลงมุมมองเศรษฐกิจต่อคณะกรรมาธิการด้านเศรษฐกิจแห่งสภาคองเกรสเมื่อคืนนี้ว่า "จำนวนบ้านถูกยึดที่พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์และอัตราว่างงานที่พุ่งสูงขึ้น กำลังสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจสหรัฐ ผมมองว่ามีความเป็นไปได้ที่เศรษฐกิจของเราจะเข้าสู่ภาวะถดถอย โดยคาดว่าในช่วงครึ่งแรกของปีนี้นั้น ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) จะขยายตัวไม่มากนัก"
          "อย่างไรก็ตาม ผมคาดว่าเศรษฐกิจจะเริ่มแข็งแกร่งขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นเพราะการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงหลายครั้งและการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงที่ผ่านมานั้น เริ่มได้ผล นอกจากนี้ ผมคาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะเริ่มขยายตัวอย่างยั่งยืนในปี 2552 เนื่องจากตลาดอสังหาริมทรัพย์เริ่มมีเสถียรภาพขึ้นและตลาดการเงินเริ่มฟื้นตัวขึ้น" เบอร์นันเก้กล่าว
          "แต่เนื่องจากตลาดการเงินมีความผันผวนมากในช่วงที่ผ่านมา จึงอาจทำให้เศรษฐกิจสหรัฐเผชิญกับความไม่แน่นอนและยังคงมีปัจจัยเสี่ยงที่ฉุดรั้งเศรษฐกิจให้เผชิญช่วงขาลง ถึงกระนั้นก็ตาม เฟดได้พยายามอย่างยิ่งยวดที่จะยับยั้งไม่ให้เกิดภาวะถดถอย รวมถึงการปรับลดอัตราดอกเบี้ยหลายครั้ง และอัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ระบบการธนาคารเพื่อผ่อนคลายภาวะตึงตัว ซึ่งทำให้เราเชื่อมั่นว่าความพยายามครั้งแล้วครั้งเล่าของเราจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้แข็งแกร่งขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปีนี้" เขากล่าว
          ในการแถลงต่อสภาคองเกรสครั้งนี้ เบอร์นันเก้ชี้แจงว่าสาเหตุที่เฟดยื่นมือเข้าแทรกแซงวิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้นกับแบร์ สเติร์นส์ด้วยการจัดหาเงินทุน 2.9 หมื่นล้านดอลลาร์ให้กับเจพีมอร์แกนเพื่อเข้าซื้อกิจการแบร์ สเติร์นส์นั้น ก็เพราะเกรงว่าวิกฤตการณ์ของแบร์ สเติร์นส์อาจสร้างความตื่นตระหนกต่อตลาดและอาจลุกลามจนยากที่จะควบคุม
          "ตลาดการเงินอยู่ในภาวะเปราะบางและอ่อนไหวอย่างมาก การขาดสภาพคล่องของแบร์ สเติร์นส์อาจทำให้ตลาดอยู่ในภาวะตื่นตระหนกและเกิดการเทขายทำกำไรอย่างหนัก เฟดจึงพิจารณาอย่างรอบคอบ จึงตัดสินใจเข้าแทรกแซงเรื่องนี้ เพื่อกอบกู้ความเชื่อมั่นของนักลงทุน" เบอร์นันเก้กล่าว
          ในด้านตลาดแรงงานนั้น เบอร์นันเก้กล่าวว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือนม.ค.และก.พ.ในสหรัฐร่วงลงอย่างหนัก และคาดว่าตัวเลขจ้างงานเดือนมี.ค.ซึ่งกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยในคืนวันศุกร์นั้น จะปรับตัวลดลงอีก อย่างไรก็ตาม คาดว่าตัวเลขจ้างงานจะฟื้นตัวขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ สำนักข่าวเอพีรายงาน