นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้ อยู่ที่ระดับ 37.28/30 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจาก ช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 37.35 บาท/ดอลลาร์
เย็นนี้เงินบาทปรับตัวแข็งค่าจากช่วงเช้า โดยดอลลาร์สหรัฐปรับตัวอ่อนค่าลง หลังจากที่ตลาดมีความกังวลกับผลการเลือกตั้ง กลางเทอมของสหรัฐ ซึ่งเกรงว่าจะมีการเปลี่ยนขั้วทางการเมืองจากเดโมแครตไปเป็นรีพับลิกัน อันอาจจะทำให้การบริหารงานของ ประธานาธิบดีโจ ไบเดน มีอุปสรรคมากขึ้น
"สัปดาห์นี้ ตลาดติดตามปัจจัยสำคัญ 2 เรื่องของสหรัฐ คือ ผลการเลือกตั้งกลางเทอม และอัตราเงินเฟ้อเดือนต.ค.ซึ่งดูว่า เงินเฟ้อจะมีแนวโน้มปรับลดลงหรือไม่ โดยตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 7.6%" นักบริหารเงิน ระบุ
อย่างไรก็ดี ยังมีปัจจัยอื่นที่มีผลต่อเนื่องกับตลาด เช่น ปัญหาความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ที่หลายฝ่ายต้องการให้ 2 ประเทศเปิดเจรจาหาทางสงบศึก รวมถึงกรณีความชัดเจนของจีนต่อนโยบายการเปิดประเทศ
นักบริหารเงิน คาดว่า พรุ่งนี้เงินบาทมีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 37.00 - 37.40 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 146.24 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 146.72 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0000 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.0012 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,632.61 จุด เพิ่มขึ้น 9.04 จุด (+0.56%) มูลค่าการซื้อขาย 63,313 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 3,231.71 ลบ. (SET+MAI)
- ครม. อนุมัติให้กระทรวงมหาดไทย ถอนร่างกฎกระทรวงการได้มาซึ่งที่ดินเพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัยของคนต่างด้าว ตาม
- รมว.พาณิชย์ จะเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) สัปดาห์หน้า พิจารณาโครงการประกันรายได้ข้าว ปี 65/66 โดย
- สหภาพยุโรป (EU) มีความกังวลอย่างมากต่อกฎหมายการปรับลดเงินเฟ้อ (Inflation Reduction Act) ของ
- ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เปิดเผยรายงานการประชุมนโยบายการเงินประจำเดือนต.ค. ชี้ว่า เจ้าหน้าที่กำหนดนโยบาย
- ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐ ออกโรงเตือนว่า หากพรรคริพับลิกันคว้าชัยชนะในศึกเลือกตั้งกลางเทอมที่มีกำหนดจัด
- นายโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐ ออกมาเปิดเผยล่าสุดว่า เขาจะทำการ "ประกาศครั้งสำคัญ" ในวันอังคารที่
- คณะกรรมการด้านสุขภาพแห่งชาติของจีน (NHC) แถลงว่า จีนพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่จำนวน 7,691 รายในวัน
จันทร์ (7 พ.ย.) ทั้งนี้ สถานการณ์โควิด-19 ในจีนมีแนวโน้มแย่ลง ทำให้จีนไม่สามารถกำจัดโควิดและผ่อนคลายมาตรการควบคุมลงได้
โดยจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่รายวันพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือนในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลให้กิจกรรมทางธุรกิจหลายอย่างต้อง
หยุดชะงัก