มาเลเซียเผยยอดเกินดุลการค้าเดือนก.พ.พุ่งขึ้น หลังยอดส่งออกขยายตัวสดใส

          สำนักงานส่งเสริมการส่งออกของมาเลเซีย (Matrade) เปิดเผยว่า ยอดเกินดุลการค้าของมาเลเซียปรับตัวเพิ่มขึ้นในเดือนก.พ. แตะระดับ 9.16 พันล้านริงกิต เนื่องจากภาคการส่งออกในช่วงเวลาดังกล่าวขยายตัวขึ้นในระดับตัวเลขสองจากยอดส่งออกน้ำมันปาล์ม ผลผลิตน้ำมันปิโตรเลียมและก๊าซธรรมชาติเหลวที่พุ่งขึ้นแข็งแกร่ง 
          โดยยอดการนำเข้า-ส่งออกของมาเลเซียในเดือนก.พ.มีมูลค่าอยู่ที่ 8.49 หมื่นล้านริงกิต ซึ่งปรับตัวเพิ่มขึ้น 12.8% ต่อปี โดยมียอดส่งออกเพิ่มขึ้น 14.5% จากระดับในปีก่อนหน้านี้แตะที่ 4.705 หมื่นล้านริงกิต ขณะที่ยอดนำเข้าเพิ่มขึ้น 10.9% ที่ระดับ 3.789 หมื่นล้านริงกิต ส่งผลให้มาเลเซียมียอดเกินดุลการค้าในเดือนก.พ.เพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 124 ติดต่อกันนับตั้งแต่เดือนพ.ย.ปี 2540
          ทั้งนี้ การส่งออกน้ำมันปาล์มและน้ำมันปิโตรเลียมยังคงขยายตัวขึ้นแข็งแกร่ง โดยยอดส่งออกน้ำมันปาล์มพุ่งทะยานขึ้น 8.0% หรือ 3.8 ล้านริงกิตจากยอดส่งออกทั้งหมด ขณะที่ยอดส่งออกน้ำมันปิโตรเลียมขยายตัว 7.6% หรือ 3.6 พันล้านริงกิต ด้านการส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์พุ่งแตะที่ 1.76 หมื่นล้านริงกิตและคิดเป็น 37.3% ของยอดการส่งออกทั้งหมด
          นอกจากนี้ การขยายตัวด้านการส่งออกที่แข็งแกร่งในเดือนก.พ.ได้รับปัจจัยหนุนจากการค้าในกลุ่มประเทศอาเซียนที่เพิ่มขึ้น ซึ่งช่วยชดเชยอุปสงค์ที่อ่อนแอจากสหรัฐ ซึ่งมาเลเซียมียอดส่งออกไปสหรัฐลดลง 12.8% ที่ระดับ 6.04 พันล้านริงกิตของมูลค่าการส่งออกในเดือนก.พ.จากระดับ 7.17 พันล้านริงกิตในเดือนม.ค.
          สำหรับยอดการส่งออกไปยังประเทศในสหภาพยุโรปขยายตัวขึ้น 16.8% แตะที่ 6.3 พันล้านริงกิต ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่การส่งออกไปประเทศสหภาพยุโรปเพิ่มขึ้นแซงหน้าสหรัฐ ขณะที่ยอดส่งออกในกลุ่มประเทศอาเซียนขยายตัวขึ้น 15.2% จากปีก่อนหน้านี้ สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงาน