ดอลล์แข็งเทียบเยน-ยูโรบ่ายนี้ ขณะนลท.มีมุมมองเป็นบวกต่อเศรษฐกิจสหรัฐ

          ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโรและเงินเยนที่ตลาดปริวรรตเงินตราฮ่องกงบ่ายวันนี้ (3 เม.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเริ่มกลับมามีมุมมองที่เป็นบวกเกี่ยวกับเศรษฐกิจสหรัฐ หลังจากที่สหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง และคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งต่อไป
          สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า ณ เวลา 12.00 น. ตามเวลาในประเทศไทย ค่าเงินยูโรซื้อขายที่ระดับ 1.5630 ดอลลาร์ต่อยูโร ลดลงจากระดับ 1.5668 ดอลลาร์ต่อยูโรที่ตลาดออสเตรเลียเช้าวันนี้ ขณะที่เงินดอลลาร์ซื้อขายที่ระดับ 102.66 เยนต่อดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจากระดับ 102.30 เยนต่อดอลลาร์ 
          "นักลงทุนเริ่มกลับมามีมุมมองที่เป็นบวกเกี่ยวกับเศรษฐกิจสหรัฐ" โธมัส แลม นักเศรษฐศาสตร์จากธนาคารยูโอบีในสิงคโปร์กล่าว
          ADP ซึ่งเป็นองค์กรที่ให้บริการด้านข้อมูลจ้างงานของสหรัฐเปิดเผยว่า ภาคเอกชนของสหรัฐมีอัตราการจ้างงานเพิ่มขึ้น 8,000 ตำแหน่งในเดือนมี.ค. ซึ่งตัวเลขดังกล่าวพุ่งขึ้นสวนทางกับที่ตลาดคาดการณ์ว่าตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนจะปรับตัวลดลง 70,000 ตำแหน่ง       
          รายงานของ ADP มีขึ้นหลังจากที่สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) ได้เปิดเผยดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐที่เพิ่มขึ้นเกินคาดเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา โดยดัชนีภาคการผลิตเดือนมี.ค.ขยับขึ้นแตะ 48.6 จากระดับ 48.3 ในเดือนก.พ. ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่า ดัชนีภาคการผลิตจะลดลงแตะ 47.5 ซึ่งถ้าตัวเลขดังกล่าวอยู่ต่ำกว่า 50 ถือว่า กิจกรรมภาคการผลิตมีการหดตัว แต่ถ้าเกิน 50 ถือว่ามีการขยายตัว
          "เศรษฐกิจสหรัฐกำลังฟื้นตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว" มาร์ค วัน หัวหน้านักวิเคราะห์จากฮั่งเส็ง อินเวสเม้นท์ เซอร์วิสเซส ลิมิเต็ดในฮ่องกงล่าว
          ทั้งนี้ เฟดได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยประเภทระยะสั้นนับตั้งแต่เดือนก.ย.ที่ผ่านมารวม 3% เหลือ 2.25% ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการแก้ไขปัญหาวิกฤตสินเชื่อที่เกิดขึ้นในสหรัฐ นอกจากนี้ เฟดยังได้อัดฉีดเงินนับพันล้านดอลลาร์เข้าสู่ระบบการเงินอีกด้วย