กนอ. เผยยอดขาย-เช่าพื้นที่นิคมฯ ปีงบ 65 โตพุ่ง 65.1% หลังเปิดประเทศ

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday November 10, 2022 13:03 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

กนอ. เผยยอดขาย-เช่าพื้นที่นิคมฯ ปีงบ 65 โตพุ่ง 65.1% หลังเปิดประเทศ

นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยว่า ยอดขาย/เช่าพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมในปีงบประมาณ 2565 (ก.ย.64-ต.ค.65) มีจำนวน 2,016.24 ไร่ เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 65.1% ซึ่งเป็นไปตามที่เคยคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ โดย กนอ.ได้ปรับเป้ายอดขาย/เช่าที่ดินในช่วงครึ่งปีหลังที่ผ่านมา ภายหลังการเปิดประเทศอย่างเป็นทางการ ส่งผลให้มีนักลงทุนต่างชาติเดินทางเข้ามาชมพื้นที่ในนิคมอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น

ขณะเดียวกัน ยังเป็นผลจากความเชื่อมั่นในโครงการขับเคลื่อนโครงสร้างพื้นฐานหลักในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ซึ่งทั้ง 4 โครงการมีความก้าวหน้าการก่อสร้างและส่งมอบพื้นที่โครงการต่อเนื่องชัดเจน รวมถึงแนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่ปรับตัวดีขึ้น ทำให้นักลงทุนตัดสินใจจอง/ซื้อ/เช่าที่ดินในนิคมอุตสาหกรรม ทั้งนิคมอุตสาหกรรมร่วมดำเนินงาน และนิคมอุตสาหกรรมที่ กนอ.ดำเนินการเอง โดยยอดการขาย/เช่านิคมอุตสาหกรรมในพื้นที่อีอีซีมีจำนวน 1,716.99 ไร่ ส่วนนอกพื้นที่อีอีซีมีจำนวน 299.25 ไร่ มีการแจ้งเริ่มประกอบกิจการ และใบขออนุญาตส่วนขยาย 407 ราย เกิดการจ้างงาน 39,643 คน มูลค่าการลงทุนรวม 137,677.75 ล้านบาท

กนอ. เผยยอดขาย-เช่าพื้นที่นิคมฯ ปีงบ 65 โตพุ่ง 65.1% หลังเปิดประเทศ
"การลงทุนจากต่างชาติเริ่มเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะพื้นที่อีอีซี คาดว่าเป็นผลจากโครงการ LTR Visa ที่เปิดใช้อย่างเป็นทางการตั้งแต่ 1 กันยายนที่ผ่านมา ดึงนักลงทุนต่างชาติมีศักยภาพสูงด้านทักษะและความเชี่ยวชาญเทคโนโลยีสมัยใหม่ และผู้มีความมั่งคั่งเข้ามาลงทุนใน 12 อุตสาหกรรมกลุ่มเป้าหมายที่รัฐบาลกำลังผลักดัน กนอ.เองก็ได้คาดการณ์ไว้เช่นกันว่า ปีนี้จะมีเม็ดเงินลงทุนในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมเพิ่มมากขึ้น เห็นได้จากยอดขาย/เช่าที่เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 65.1%" นายวีริศ กล่าว

นอกจากนี้ เมื่อพิจารณาจากหลายปัจจัยแล้ว ทำให้ในปี 2566 กนอ. ตั้งเป้ายอดขาย/เช่าพื้นที่ไว้ที่ 2,500 ไร่ โดยคาดการณ์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย และปัจจัยบวกจากทิศทางการเคลื่อนย้ายการลงทุนที่เกิดขึ้นทั่วโลก ทั้งสงครามการค้าระหว่างจีน-สหรัฐฯ การแพร่ระบาดของโควิด-19 การเกิดสงครามยูเครน-รัสเซีย และล่าสุดการปฏิรูปการเมืองในประเทศจีน ทำให้หลายอุตสาหกรรมยักษ์ใหญ่จัดระบบการผลิตครั้งใหญ่ ซึ่งไทยมีความได้เปรียบหลายส่วน ส่งผลให้บริษัทขนาดใหญ่ระดับโลกหลายบริษัทเล็งที่จะเข้ามาลงทุนในไทย

นายวีริศ กล่าวว่า ปัจจุบัน กนอ.มีพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมประมาณ 182,273 ไร่ แบ่งเป็น พื้นที่นิคมอุตสาหกรรมที่ กนอ.ดำเนินการเองประมาณ 37,724 ไร่ และพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมร่วมดำเนินงานประมาณ 144,549 ไร่ มีพื้นที่ขายและให้เช่าประมาณ 119,307 ไร่ เป็นพื้นที่ขาย/ให้เช่าแล้วประมาณ 94,043 ไร่ และมีพื้นที่คงเหลือสำหรับขาย/ให้เช่าอีกประมาณ 25,264 ไร่ มีมูลค่าการลงทุนสะสมประมาณ 5.59 ล้านล้านบาท มีโรงงานในนิคมอุตสาหกรรมประมาณ 4,864 โรง และมีการจ้างงานรวมทั้งสิ้น ประมาณ 926,262 คน

โดยกลุ่มอุตสาหกรรม 5 อันดับแรก ได้แก่ 1.กิจการอื่นที่เกี่ยวเนื่องกับอุตสาหกรรม 22.6% 2.อุตสาหกรรมยานยนต์ และการขนส่ง 11.06% 3.อุตสาหกรรมเหล็ก และผลิตภัณฑ์โลหะ 9.33% 4.อุตสาหกรรมยาง พลาสติก และหนังเทียม 8.85% และ 5.อุตสาหกรรมเครื่องยนต์ เครื่องจักร และอะไหล่ 8.36%

ทั้งนี้ นักลงทุนจากญี่ปุ่นยังครองแชมป์สนใจลงทุนมากเป็นอันดับ 1 ถึง 31.25 % รองลงมา คือ นักลงทุนจากจีน 18.75 และนักลงทุนจากอเมริกา อังกฤษ ออสเตรเลีย เนเธอร์แลนด์ อินเดีย และมาเลเซีย 6.25% ตามลำดับ

ขณะที่ภาพรวมการลงทุนในนิคมอุตสาหกรรม ทั้งนิคมอุตสาหกรรมที่ กนอ.ดำเนินการเอง และนิคมอุตสาหกรรมร่วมดำเนินงาน ปัจจุบันมีจำนวนทั้งสิ้น 67 แห่ง และท่าเรืออุตสาหกรรม 1 แห่ง ใน 16 จังหวัด เป็นนิคมอุตสาหกรรมที่ กนอ.ดำเนินการเอง 15 แห่ง และนิคมอุตสาหกรรมร่วมดำเนินงาน 52 แห่ง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ