ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 36.11 แข็งค่า ตลาดคาดหวังเฟดชะลอเร่งขึ้นดบ.หลังเงินเฟ้อสหรัฐต่ำกว่าคาด

ข่าวเศรษฐกิจ Friday November 11, 2022 09:19 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 36.11 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัวแข็งค่าจาก ปิดตลาดเย็นวานนี้ที่ระดับ 36.87 บาท/ดอลลาร์ เนื่องจากดอลลาร์ปรับตัวอ่อนค่าเมื่อเทียบกับทุกสกุลเงิน หลังตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ที่ประกาศเมื่อคืนนี้ออกมาต่ำกว่าตลาดคาดการณ์ไว้ ทำให้ตลาดมองว่าการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินของสหรัฐ (FOMC) ใน เดือน ธ.ค.65 มีความเป็นไปได้มากที่จะมีมติปรับขึ้นดอกเบี้ยอีกแค่ 0.50% ไม่ใช่ 0.75% ซึ่งส่งผลให้ดอลลาร์อ่อนค่าตามอัตราดอกเบี้ย พันธบัตรของสหรัฐฯ อายุ 10 ปีที่ปรับตัวย่อลงมา

นอกจากนี้ราคาทองคำในตลาดโลกยังปรับตัวเพิ่มขึ้น ทำให้มีแรงขายจากการส่งออกทองคำ ซึ่งจะเป็นปัจจัยกดดันให้บาทแข็ง ค่าได้อีก

"บาทแข็งค่าตามทิศทางตลาดโลกอย่างรวดเร็ว หลังดอลลาร์อ่อนค่าตามบอนด์ยีลด์ที่ปรับตัวย่อลงมา โดยบาททำนิวโลว์นับ ตั้งแต่วันที่ 26 สิงหาคม" นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ที่ 36.00 - 36.30 บาท/ดอลลาร์

THAI BAHT FIX 3M (10 พ.ย.) อยู่ที่ระดับ 1.28771% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 1.59669%

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 141.86 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 146.32/34 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0179 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 0.9966/70 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 36.884 บาท/ดอลลาร์
  • 'กอบศักดิ์'ชี้ปีหน้าเจอแน่ภาวะถดถอย แต่ฟื้นตัวได้เร็ว ภาคเอกชนเอเชีย-แปซิฟิกเห็นพ้องไม่สนใจโควิด-19 ต้องทำ
เศรษฐกิจในภาวะโควิด ดันธุรกิจกลับคืนปกติโดยเร็ว
  • กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนี CPI ทั่วไปซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 7.7% ในเดือนต.ค.
เมื่อเทียบรายปี ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 7.9% และชะลอตัวจากระดับ 8.2% ในเดือนก.ย.

ข้อมูลดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่า เงินเฟ้อของสหรัฐได้ผ่านจุดสูงสุดแล้ว และทำให้นักลงทุนคาดการณ์ว่าเฟดจะชะลอการปรับขึ้น อัตราดอกเบี้ยในการประชุมนโยบายการเงินเดือนธ.ค. โดย FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนักสูงถึง 80.6% ที่เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยเพียง 0.50% ในการประชุมวันที่ 13-14 ธ.ค. และให้น้ำหนัก 19.4% ที่เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.75%

  • กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 7,000 ราย สู่ระดับ 225,000 รายใน
สัปดาห์ที่แล้ว สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 220,000 ราย
  • ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงอย่างมากเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวัน
พฤหัสบดี (10 พ.ย.) หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อที่ต่ำกว่าคาดการณ์ ซึ่งอาจส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ชะลอการปรับขึ้น
อัตราดอกเบี้ยในการประชุมนโยบายการเงินเดือนธ.ค.
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 2% ในวันพฤหัสบดี (10 พ.ย.) ขานรับดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐที่
ออกมาต่ำกว่าคาด ซึ่งอาจเป็นปัจจัยหนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย นอกจากนี้ การอ่อนค่าของสกุลเงิน
ดอลลาร์ยังเป็นปัจจัยบวกต่อตลาดทองคำ
  • ราคาบิตคอยน์พุ่งขึ้นเหนือระดับ 17,000 ดอลลาร์ และสกุลเงินดิจิทัลอื่น ๆ ดีดตัวขึ้นเช่นกัน ขานรับสหรัฐเปิดเผยตัวเลข
เงินเฟ้อที่ต่ำกว่าคาดและเป็นปัจจัยหนุนการคาดการณ์ที่ว่าเฟดชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ราคาบิตคอยน์และสกุล
เงินคริปโทฯร่วงลงอย่างหนัก ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับสภาพคล่องของบริษัทเอฟทีเอ็กซ์ (FTX) ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มซื้อขายสกุลเงินคริ
ปโทฯ
  • ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาดัลลัสกล่าวว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ที่ต่ำกว่าคาดถือเป็นเรื่องที่น่ายินดี
แต่ก็ยังคงมีหนทางอีกยาวไกลที่เฟดจะต้องต่อสู้กับเงินเฟ้อต่อไป
  • นักลงทุนเพิ่มคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพียง 0.50% ในการประชุมกำหนด
นโยบายการเงินในเดือนธ.ค. หลังการเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อที่ต่ำกว่าคาด

ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 80.6% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ใน การประชุมวันที่ 13-14 ธ.ค. และให้น้ำหนักเพียง 19.4% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75%

  • นักลงทุนยังคงรอดูผลการเลือกตั้งกลางเทอมของสหรัฐ ขณะที่สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า ผลการนับคะแนนล่าสุดพบ
ว่าพรรครีพับลิกันยังคงมีคะแนนนำพรรคเดโมแครตทั้งในวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ แต่คะแนนไม่ได้ทิ้งห่างมากนัก และไม่เกิด
กระแส Red Wave หรือการชนะอย่างถล่มทลายของพรรครีพับลิกันตามที่มีการคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้
  • ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญวันนี้ ทางการอังกฤษจะรายงานผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 3/2565 และ
ดุลการค้าเดือนก.ย. ส่วนสหรัฐจะมีการรายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดือนพ.ย.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ