นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในปี 66 กรมฯ ได้จัดทำแผนประชาสัมพันธ์ตลาดข้าว โดยเดินหน้าตามนโยบายของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ คือ รัฐหนุน เอกชนนำ พร้อมร่วมมือกับผู้ส่งออกข้าวจัดกิจกรรมส่งเสริมตลาดข้าวไทย เพื่อรักษาและขยายตลาดในกลุ่มลูกค้าเดิม และแสวงหากลุ่มลูกค้าใหม่
ทั้งนี้ มีกิจกรรมที่จะดำเนินการทั้งในรูปแบบออฟไลน์และออนไลน์ อาทิ การกระชับความสัมพันธ์และสร้างความเชื่อมั่นกับคู่ค้าสำคัญอย่างต่อเนื่อง ผ่านระบบการประชุมทางไกลกับฮ่องกง มาเลเซีย สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ อิรัก และญี่ปุ่น เป็นต้น
นอกจากนี้ ปี 66 กรมฯ มีแผนจะจัดการประชุมข้าวนานาชาติ Thailand Rice Convention 2023 ซึ่งเป็นการประชุมที่ยิ่งใหญ่และสำคัญสำหรับผู้ที่อยู่ในวงการค้าข้าวโลก ที่เดินทางมาเข้าประชุมสัมมนาวิชาการ ในการสร้างความร่วมมือด้านการค้า และเจรจาธุรกิจระหว่างผู้ส่งออกข้าวและผู้นำเข้าข้าวจากทั่วโลก
นอกจากนี้ กรมฯ ยังมีแผนที่จะเข้าร่วมงานแสดงสินค้านานาชาติทั้งในประเทศ ได้แก่ Thaifex Anuga ASIA 2023 และในต่างประเทศ ได้แก่ งาน Summer Fancy Food Show ณ สหรัฐอเมริกา, งาน GULFFOOD 2023 ณ เมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, งาน FOOFEX 2023 ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น, งาน China-ASEAN Expo ครั้งที่ 20 (CAEXPO) 2023 ณ นครหนานหนิง สาธารณรัฐประชาชนจีน และงาน Fine Food 2023 ณ นครซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย เป็นต้น
สำหรับตลาดส่งออกข้าวในปีหน้า ยังคงมุ่งเน้นไปที่ตลาดทางกลุ่มลูกค้าหลัก เช่น จีน แอฟริกาใต้ สหรัฐอเมริกา และเบนิน รวมทั้งกลุ่มลูกค้าเดิมที่หันกลับมาสั่งซื้อข้าวไทย เช่น อิรัก เป็นต้น
นายรณรงค์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปีนี้ถือว่าสถานการณ์การส่งออกข้าวฟื้นตัวจากปีที่ผ่านมาอย่างมาก เห็นได้จากตัวเลขข้อมูลกรมศุลกากรและใบอนุญาตส่งออกข้าว ในช่วงวันที่ 1 ม.ค.-2 พ.ย. 65 ไทยส่งออกข้าวปริมาณ 6.17 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 30.83% มูลค่าการส่งออก 109,299 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 31.15% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา
ทั้งนี้ เนื่องด้วยการส่งออกข้าวไทยได้รับปัจจัยบวกด้านต่างๆ อาทิ ค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลงตามทิศทางของเงินสกุลอื่นในภูมิภาค ทำให้ราคาข้าวไทยอยู่ในระดับที่สามารถแข่งขันกับประเทศคู่แข่งได้ ประกอบกับประเทศในตะวันออกกลางอย่าง อิรัก จอร์แดน โอมาน และอิหร่าน หันมานำเข้าข้าวจากไทยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
รวมทั้งในช่วงปลายปี ถือเป็นโอกาสทองของการส่งออกที่จะมีคำสั่งซื้อเข้ามามาก เพื่อสำรองใช้ข้าวสำหรับเทศกาลในช่วงปลายปี ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวถือเป็นสัญญาณเชิงบวกต่อทิศทางการส่งออกของข้าวไทยในปีหน้าต่อไปอีกด้วย