ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์แข็งเทียบยูโร ขณะตลาดจับตาตัวเลขจ้างงานสหรัฐคืนนี้

          ภาวะการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (3 เม.ย.) สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งแกร่งขึ้นเมื่อเทียบกับยูโร หลังจากมีข้อมูลบ่งชี้ว่าธุรกิจการธนาคารและภาคค้าปลีกของยุโรปมีแนวโน้มซบเซา ซึ่งทำให้นักลงทุนมองว่าวิกฤตสินเชื่อเริ่มลุกลามจนทำให้เศรษฐกิจยุโรปชะลอตัวลง นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังได้รับแรงหนุนจากข่าวที่ว่าเมอร์ริล ลิชน์ มีสภาพคล่องมากพอและไม่จำเป็นต้องระดมทุนเพิ่ม
          สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ค่าเงินยูโรอ่อนตัวลงแตะระดับ 1.5662 ดอลลาร์/ยูโร จากระดับของวันพุธที่ 1.5687 ดอลลาร์/ยูโร ขณะที่สกุลเงินปอนด์แข็งแกร่งขึ้นแตะระดับ 1.9940 ดอลลาร์/ปอนด์ จากระดับ 1.9889 ดอลลาร์/ปอนด์
          ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งแกร่งขึ้นแตะระดับ 0.9150 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย จากระดับ   0.9139 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์อ่อนตัวลงแตะระดับ 0.7855 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ จากระดับ 0.7894 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์
          อย่างไรก็ตาม เมื่อเทียบกับเงินเยนและฟรังซ์สวิส ดอลลาร์แข็งแกร่งขึ้นแตะระดับ 102.37 เยน/ดอลลาร์ จากระดับ 102.24 เยน/ดอลลาร์ และแข็งแกร่งขึ้นแตะระดับ 1.0102 ฟรังซ์/ดอลลาร์ จากระดับ 1.0080 ฟรังซ์ต่อดอลลาร์
          ดอลลาร์สหรัฐแข็งแกร่งขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโร หลังจากมีรายงานว่า ยอดค้าปลีกในยุโรปร่วงลงเกินความคาดหมาย และจากข่าวที่ว่าธนาคารรายใหญ่แห่งหนึ่งของเยอรมนี จำเป็นต้องระดมทุน 9.4 พันล้านดอลลาร์เพื่อชดเชยการขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน 
          อย่างไรก็ตาม ดอลลาร์อ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นๆ หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการในระหว่างว่างงาน พุ่งขึ้นแตะระดับ 407,000 ราย ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.2548 และทำให้เกิดความกังวลว่าตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่สหรัฐจะรายงานในวันศุกร์นี้ อาจร่วงลงอย่างรุนแรง
          นักวิเคราะห์จากโพลล์ของสำนักข่าวธอมสัน ไอเอฟอาร์ มาร์เก็ตส์คาดว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐในเดือนมี.ค.จะลดลง 50,000 ตำแหน่ง หลังจากที่ร่วงลง 63,000 ตำแหน่งในเดือนก.พ.
          เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ADP ซึ่งเป็นองค์กรที่ให้บริการด้านข้อมูลจ้างงานของสหรัฐเปิดเผยว่า ภาคเอกชนของสหรัฐมีอัตราการจ้างงานเพิ่มขึ้น 8,000 ตำแหน่งในเดือนมี.ค. ซึ่งตัวเลขดังกล่าวพุ่งขึ้นสวนทางกับที่ตลาดคาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนจะปรับตัวลดลง 70,000 ตำแหน่ง