นายอนุชา บรูพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในการประชุมเอเปควันที่ 17-19 พฤศจิกายน 2565 นี้ จะมีการประชุมประเด็นเขตการค้าเสรีเอเชีย-แปซิฟิก หรือ Free Trade Area of the Asia-Pacific (FTAAP) ซึ่งรัฐบาลได้ประชุมและร่างถ้อยแถลงร่วมรัฐมนตรีเอเปค ครอบคลุมประเด็นสำคัญ 47 หัวข้อ ซึ่งแบ่งเป็น 3 ประเด็นหลัก คือ 1.การเปิดกว้างต่อทุกโอกาส 2.การเชื่อมโยงในทุกมิติ และ 3.ความสมดุลในทุกด้านในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับ FTAAP
ทั้งนี้ ไทยจะเสนอแผนงานขับเคลื่อน FTAAP โดยรวบรวมประเด็นที่สมาชิกเอเปคสนใจร่วมกัน ทั้งการค้าดั้งเดิม การค้าใหม่และการฟื้นฟูเศรษฐกิจ โดยตั้งเป้าหมายของ FTAAP เพื่อขยายการค้าการลงทุนภายในเอเชีย-แปซิฟิก รวมทั้งลดอุปสรรคการค้าการลงทุนที่ไม่จำเป็น และเพิ่มศักยภาพการแข่งขันของสมาชิกเอเปค และลดช่องว่างการพัฒนาทางเศรษฐกิจการค้าระหว่างกัน ซึ่งปัจจุบันกำลังทำแผนงาน FTAAP ระยะ 4 ปี (2566-2569) ที่มุ่งสู่การจัดทำ FTAAP เพื่อตอบสนองสถานการณ์เศรษฐกิจโลก ด้านการค้า การลงทุน นวัตกรรม การเข้าสู่ยุคดิจิทัล
"รัฐบาลได้พยายามชูประเด็น เพื่อหารือการขับเคลื่อน FTAAP ซึ่งหวังให้เป็นเขตการค้าเสรีใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งเป็นกลไกสำคัญที่จะขจัดอุปสรรคทางการค้าระหว่างประเทศ และหนุนการเชื่อมโยงของห่วงโซ่อุปทานในกลุ่มสมาชิก เพื่อนำไปสู่การเจรจาการลดภาษีระหว่างกลุ่มเอเปคเป็นรายสินค้าได้มากขึ้น ในโอกาสนี้ เชื่อมั่นว่า จะช่วยสนับสนุนเศรษฐกิจไทยให้เติบโตหลายมิติ เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของไทยในระยะยาว รัฐบาลหวังเป็นอย่างยิ่งการผลักดัน FTAAP จะเป็นโอกาสที่ภาคธุรกิจสามารถขยายตัว โดยที่อุปสรรคทางการค้าลดลง และเพิ่มโอกาสทางธุรกิจมากขึ้น" นายอนุชา กล่าว