พล.ท.หญิงพูนภิรมย์ ลิปตพัลลภ รมว.พลังงาน เปิดเผยว่า กระทรวงพลังงานมีแผนส่งเสริมการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลมเป็นพลังงานทางเลือกเพื่อทดแทนการนำเข้าพลังงานจากต่างประเทศ โดยตั้งเป้าที่จะส่งเสริมให้มีการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลมให้ได้ 115 เมกะวัตต์ภายในปี 54 หลังประสบความสำเร็จในการนำร่องติดตั้งกังหันลมผลิตไฟฟ้าขนาดกำลังการผลิต 1,750 กิโลวัตต์
วันนี้ รมว.พลังงาน ได้ลงพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช เพื่อวางศิลาฤกษ์โครงการกังหันลมผลิตไฟฟ้ากำลังการผลิต 1.5 เมกะวัตต์ และเปิดกังหันลมไฟฟ้ากำลังการผลิตไฟฟ้าขนาด 250 กิโลวัตต์ ภายในโครงการสาธิตผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลมในประเทศไทย เพื่อพัฒนาพลังงานทดแทนให้มีประสิทธิภาพ และจะเร่งติดตั้งกังหันลมสาธิตอีก 2 ชุด กำลังการผลิตรวม 1,750 กิโลวัตต์ ที่ จ.ปัตตานี
โครงการดังกล่าวถือเป็นการนำร่องเพื่อการสาธิตการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลมขนาดใหญ่ที่สุดในไทย ซึ่งสามารถผลิตไฟฟ้าได้ถึงปีละ 3.4 ล้านหน่วย ทดแทนน้ำมันเชื้อเพลิงเทียบเท่าน้ำมันดิบได้ปีละ 290 ตัน หรือ 6.8 ล้านบาทต่อปี และช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลดโลกร้อนได้ประมาณ 1,000 ตันต่อปี
นอกจากส่งเสริมการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลมแล้ว กระทรวงพลังงานยังส่งเสริมให้มีการใช้พลังงานทดแทนในประเทศให้มีอัตราเพิ่มขึ้นจาก 0.5% เป็น 8% ในปี 54 ได้แก่ การผลิตไฟฟ้าจากพลังงานขยะรวม 100 เมกะวัตต์, การผลิตก๊าซชีวภาพจากขยะอินทรีย์ ซึ่งคาดว่าจะสามารถผลิตได้ประมาณวันละ 0.79 ล้านลูกบาศก์เมตร ทดแทนก๊าซหุงต้มได้ 0.36 ล้านกิโลกรัม คิดเป็นมูลค่า 6.55 ล้านบาทต่อวันหรือประมาณปีละ 2,400 ล้านบาท
และเพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานทดแทนให้ได้ 13.8% หรือคิดเป็น 15,885 พันตันเทียบเท่าน้ำมันดิบ โดยปัจจุบันมีสัดส่วนการใช้พลังงานทดแทนอยู่ที่ 4.7% เทียบเท่าการทดแทนพลังงานได้ 3,160 พันตันเทียบเท่าน้ำมันดิบ และลดก๊าซเรือนกระจกได้ประมาณ
9.7 ล้านตัน
--อินโฟเควสท์ โดย อตฦ/ธนวัฏ/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--