ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 35.90 อ่อนค่าจากสัปดาห์ก่อน ตลาดรอตัวเลข GDP ไทย ให้กรอบ 35.85-36.15

ข่าวเศรษฐกิจ Monday November 21, 2022 09:16 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 35.90 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจาก เย็นวันศุกร์ที่ปิดตลาดที่ระดับ 35.75 บาท/ดอลลาร์

โดยวันนี้ปัจจัยในประเทศที่ตลาดให้ความสนใจ คือ การรายงานตัวเลข GDP ไตรมาส 3/65 จากสำนักงานสภาพัฒนาการ เศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ซึ่งตลาดคาดว่าจะขยายตัวได้ 4.5% เมื่อเทียบ YoY นอกจากนี้ และในช่วงกลางสัปดาห์ ตลาดยัง รอดูรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ด้วย

"วันนี้ตลาดรอดูสภาพัฒน์ รายงาน GDP ไตรมาส 3 ซึ่งคาดว่าจะขยายตัวได้ 4.5% ซึ่งหาก GDP ออกมาดี ก็น่าจะมี ผลบ้างกับค่าเงินบาท" นักบริหารเงิน ระบุ

นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 35.85 - 36.15 บาท/ดอลลาร์

THAI BAHT FIX 3M (18 พ.ย.) อยู่ที่ระดับ 1.22835% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 1.58361%

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 140.29 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 139.93 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0311 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 1.0384 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 35.838 บาท/ดอลลาร์
  • สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย ไตรมาสที่ 3 ปี
2565 และแนวโน้มปี 2565-2566
  • กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เปิดเผยรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจโลก (WORLD ECONOMIC OUTLOOK
REPORT) ในเดือนต.ค. 2565 โดยคาดการณ์ว่า ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกนั้น มีประเทศไทยและจีนเพียง 2 ประเทศเท่านั้นที่มีผลิตภัณฑ์
มวลรวมภายในประเทศที่แท้จริง (Real GDP) ที่ขยายตัวทั้งในปี 2565 และ 2566 และการขยายตัวของจีดีพีที่แท้จริงในปีหน้านั้นยังเพิ่ม
ขึ้นจากระดับในปีนี้ด้วย โดยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของไทยนั้นมีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้นจาก 2.8% ในปีนี้ เป็น 3.7%
ในปี 2566
  • ผู้นำเขตเศรษฐกิจและแขกพิเศษ เดินทางกลับ หลังเสร็จประชุมเอเปก นายกฯ บิ๊กตู่ ปลื้ม ที่ประชุม รับรอง "Bangkok
goals on BCG Economy" ชื่นชม ความริเริ่มของไทย เชื่อมั่นโมเดลเศรษฐกิจ BCG จะสร้างการเติบโต ของประเทศ พร้อมสั่งต่อยอด
งานต่างๆ และมั่นใจการท่องเที่ยวฟื้น ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในอีก 6 เดือนข้างหน้า
  • ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า หลังการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปคได้จบลง ททท.เห็น
สัญญาณที่ดีต่อการท่องเที่ยวของไทย เพราะงานประชุมเอเปคได้มีการใช้ซอฟต์เพาเวอร์ในเรื่องของอาหารและความเป็นประเทศไทยได้ดี
มาก จึงเชื่อว่าซอฟต์เพาเวอร์ด้านอาหารและวัฒนธรรมของไทย ที่โชว์ในงานจะออกสู่สายตาต่างประเทศ นำนักท่องเที่ยวกลับมาเที่ยวไทย
ได้มากขึ้น โดยปี 2566 มั่นใจว่ารายได้จากการท่องเที่ยวจะกลับมาจำนวน 80% ของรายได้ในปี 2562 แน่นอน
  • ททท. ลุ้น ครม.เร่งเคาะ "เที่ยวด้วยกันเฟส 5" ช่วยดึงคนไทยไม่แห่ทัวร์นอกช่วงปีใหม่ 'ทีดีอาร์ไอ'หนุน รบ.ดัน "คน
ละครึ่งเฟส 6" กระตุ้น ศก.
  • ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) สรุปมูลค่าการซื้อขายหลักทรัพย์สะสมตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม-19 พฤศจิกายน
2565 แยกเป็นนักลงทุนสถาบันในประเทศขายสุทธิ 153,021.31 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์(โบรกเกอร์) ขายสุทธิ 2,224.23 ล้าน
บาท นักลงทุนต่างประเทศซื้อสุทธิ 176,266.17 ล้านบาท นักลงทุนในประเทศ (รายย่อย) ขายสุทธิ 21,020.63 ล้านบาท
  • สมาพันธ์ชงประยุทธ์ยก 'แก้หนี้วาระแห่งชาติ' หลังธุรกิจเอสเอ็มอีเจ๊งหนี้เสียพุ่ง 2.6 ล้านบัญชี พร้อมเสนอแพ็กเกจฟื้น
ธุรกิจ
  • ซีอีโอธุรกิจหนุน "เศรษฐา ทวีสิน" นั่งนายกฯ แก้ปัญหาเศรษฐกิจเป็นเรื่องเร่งด่วน เลือก "เพื่อไทย" แกนนำ ตั้ง
รัฐบาล ขณะที่ 'แพทองธาร-พิธา-พล.อ.ประยุทธ์-สมคิด" ติดกลุ่มที่ซีอีโอเลือก มอง 5 นโยบายทำทันที แก้เศรษฐกิจ-แก้ความจน ลด
เหลื่อมล้ำ ปรับกฎหมายรับเศรษฐกิจดิจิทัล ดึงเงินลงทุนต่างประเทศ พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานรถไฟเร็วสูง ท่าเรือน้ำลึก "เอกชน" มอง
การเมืองหลังเอเปค รัฐบาลคุมได้ทั้งใน-นอกสภา "สนั่น" ตั้งสเปค นายกฯ คนใหม่ ต้องแก้ปัญหาเศรษฐกิจ นำข้อสรุปเอเปคขับเคลื่อน
ทั้ง "เอฟทีเอ-บีซีจี"
  • ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาแอตแลนตาระบุเมื่อวันเสาร์ (19 พ.ย.) สนับสนุนให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยน้อย
กว่า 0.75% ที่การประชุมนโยบายเดือนธ.ค. และมองว่า อัตราดอกเบี้ยเป้าหมายของเฟดนั้นไม่ควรเพิ่มขึ้นเกินกว่า 1%
  • นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.50% ในที่ประชุมเดือนธ.ค. หลังปรับขึ้นครั้งละ 0.75% ติดต่อกัน 4
ครั้ง
  • ธนาคารกลางจีนประกาศคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดี (LPR) ประเภท 1 ปีที่ระดับ 3.65% และคงอัตราดอกเบี้ย
LPR ประเภท 5 ปีที่ระดับ 4.30% ในวันนี้ ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
  • ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญสัปดาห์นี้ ได้แก่ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน ยอดขายบ้านใหม่เดือนต.ค. ดัชนีความเชื่อมั่นผู้

บริโภคเดือนพ.ย. บันทึกการประชุมเฟดเมื่อวันที่ 1-2 พ.ย. และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ