นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยว่า กระทรวงอุตสาหกรรม กับกระทรวงพาณิชย์ของสาธารณรัฐประชาชนจีน ได้มีพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ในช่วงการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค เมื่อวันที่ 19 พ.ย.65 เพื่อจัดตั้งคณะทำงานขับเคลื่อนส่งเสริมความร่วมมือด้านการพัฒนานิคมอุตสาหกรรม และสนับสนุนกิจกรรมส่งเสริมการลงทุน โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อส่งเสริมนโยบายความคิดริเริ่ม "หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง" (Belt and Road initiatives) เชื่อมโยงสู่นโยบายไทยแลนด์ 4.0 ตลอดจนร่วมกันเสริมสร้างความร่วมมือทวิภาคีด้านเศรษฐกิจ อุตสาหกรรม การค้า และการลงทุน โดยได้มอบหมายให้การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เร่งศึกษาและดำเนินการประสานงานต่อไป
ด้านนายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการ กนอ.กล่าวว่า การลงนาม MOU ครั้งนี้เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูล และสนับสนุนขีดความสามารถด้านความร่วมมือของอุตสาหกรรมด้วยการแบ่งปันประสบการณ์ด้านการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม ได้แก่ อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ การแพทย์ อุตสาหกรรมชีวภาพ และเศรษฐกิจหมุนเวียนชีวภาพ เพื่อเพิ่มมูลค่าของห่วงโซ่ในภาคการผลิต ขณะเดียวกันยังศึกษาความเป็นไปได้ในการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรม ทั้งในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ (SEZ) และพื้นที่อื่นๆ ที่เหมาะสมอีกด้วย ซึ่ง กนอ.จะเร่งดำเนินการประสานงานต่อไป
"กนอ.จะแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านการลงทุน ข้อบังคับ นโยบาย และกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการลงทุน พร้อมทั้งจัดกิจกรรมส่งเสริมการลงทุน การจัดสัมมนาสำหรับภาคธุรกิจ และการจับคู่ธุรกิจ เพื่อสนับสนุนการลงทุนในนิคมอุตสาหกรรม และประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อสนับสนุนความร่วมมือในการพัฒนาทักษะฝีมือแรงงานไทย-จีน รวมถึงการดำเนินงานในด้านอื่นๆ ที่ทั้งสองฝ่ายตกลงกัน ซึ่ง MOU มีผลบังคับใช้ 3 ปีนับตั้งแต่วันที่ลงนาม" นายวีริศ กล่าว
สำหรับนโยบายหนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง (BRI) มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเชื่อมโยงตลาดการค้าระหว่างประเทศจีนและประเทศต่างๆ ในภูมิภาคเอเชียและยุโรป โดยรัฐบาลจีนมุ่งหวังให้เป็นเส้นทางสายไหม (Silk Road) เส้นใหม่ เพิ่มเส้นทางขนส่งทางทะเล เพื่อเชื่อมโยงประเทศในแถบชายฝั่ง รวมถึงทวีปแอฟริกาด้วย