นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิตดลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 36.21 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจาก ช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 35.90 บาท/ดอลลาร์
วันนี้เงินบาทอ่อนค่าสอดคล้องกับสกุลเงินอื่นๆ ในภูมิภาค เนื่องจากช่วงนี้ตลาดกลับมากังวลปัญหาการระบาดโควิด-19 อีก ครั้ง โดยเฉพาะในประเทศจีน รวมถึงปัจจัยจาก US treasury yield ที่ปรับเพิ่มขึ้นค่อนข้างแรง จึงส่งผลให้ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อ เทียบกับสกุลเงินอื่นๆ
ส่วนการประกาศ GDP ไตรมาส 3/65 จากสภาพัฒน์ที่ขยายตัวได้ 4.5% แม้จะดีกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ แต่ก็ส่งผลต่อค่าเงิน มากได้ไม่มากเท่ากับปัจจัยต่างประเทศ
"ปัจจัยเรื่อง GDP ไม่มีผลมากนัก ค่าเงินวิ่งตามปัจจัยภายนอกมากกว่า ช่วงนี้ตลาดกลับมากังวลโควิดในจีนอีกครั้ง" นัก
โดยตลาดรอติดตามถ้อยแถลงจากเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่จะให้ความเห็นต่อทิศทางของดอกเบี้ยนโยบายใน ระยะข้างหน้า
นักบริหารเงิน คาดว่า พรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 35.95 - 36.30 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 141.80 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 140.29 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0230 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.0311 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,618.86 จุด เพิ่มขึ้น 1.48 จุด (+0.09%) โดยมีมูลค่าการซื้อขาย 52,580 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 1,513.50 ลบ.(SET+MAI)
- สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) แถลง GDP ไตรมาส 3/2565 ขยายตัวได้ 4.5% เร่งตัว
- สภาพัฒน์ คาดว่า เศรษฐกิจไทยในปี 66 คาดว่าจะขยายตัวได้ 3-4% โดยมีปัจจัยสนับสนุนที่สำคัญจาก การฟื้นตัวของภาค
- ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานของระบบธนาคารพาณิชย์ไตรมาส 3 ปี 2565 ว่า สิน
- จีนสั่งล็อกดาวน์เมืองหลวงของมณฑลเหอเป่ย ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับกรุงปักกิ่ง โดยสั่งปิดโรงเรียน และมหาวิทยาลัย และสั่งให้
- นายจอห์น ลี ผู้ว่าการเขตปกครองพิเศษของฮ่องกง มีผลตรวจเชื้อโควิด-19 เป็นบวก หลังกลับจากการเข้าร่วมประชุมเอ
- ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด (สแตนชาร์ต) คาดว่า เศรษฐกิจเอเชีย และตะวันออกกลาง
- นักวิเคราะห์ของโกลด์แมน แซคส์ กล่าวว่า สกุลเงินรูปี เป็นหนึ่งในสกุลเงินที่แข็งแกร่งที่สุดในภูมิภาค แม้จะอ่อนค่าอยู่บ้าง
เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ โดยคาดว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปของอินเดีย จะชะลอตัวสู่ระดับ 6.1% ในปี 2566 จากคาดการณ์เดิมที่ 6.8%
ในปีนี้