น.ส.ไตรศุลี ไตรสณรกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม พอใจที่เศรษฐกิจไตรมาส 3/65 เติบโตได้ดีที่ 4.5 %ซึ่งเป็นการขยายตัวต่อเนื่องจากไตรมาสที่ 1-2 ที่ 2.3 %และ 2.5%ตามลำดับ และปัจจัยรอบด้านทั้งภาคการท่องเที่ยว การลงทุน การบริโภคเอกชน และการผลิตภาคอุตสาหกรรมที่ฟื้นตัวต่อเนื่องทำให้สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) คาดว่าตลอดปี 65 เศรษฐกิจจะเติบโตได้ 3.2% จาก 1.5%ในปี 64
นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า รัฐบาลจะดำเนินนโยบายต่างๆ เพื่อรักษาความต่อเนื่องของการเติบโตทางเศรษฐกิจ ให้ประชาชนทุกกลุ่มได้รับผลประโยชน์จากการขยายตัวนี้อย่างทั่วถึง และแก้ไขในประเด็นที่ยังเป็นปัญหาอุปสรรค เช่น การเบิกจ่ายงบลงทุนภาครัฐที่ สศช. ได้มีข้อชี้แนะว่ายังมีความล่าช้าและต้องเร่งรัดเพื่อให้เม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีจะยังคงให้ความสำคัญกับนโยบายการแก้ไขปัญหาหนี้สินครัวเรือนและเอสเอ็มอี ด้วยมาตรการต่างๆที่หน่วยงานเกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นกระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ที่ร่วมกับสถาบันการเงินทั้งรัฐและเอกชนให้ความช่วยเหลือลูกหนี้อยู่ขณะนี้ ซึ่งเน้นย้ำว่ามาตรการนี้ยังจำเป็นโดยเฉพาะในช่วงที่ดอกเบี้ยทั่วโลกอยู่ในขาขึ้น
ในส่วนของภาคที่เกี่ยวข้องกับต่างๆประเทศ ยอมรับว่า เศรษฐกิจไทยจะต้องเผชิญกับความท้าทายของเศรษฐกิจโลก จากความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ส่งผลต่อราคาน้ำมัน ต้นทุนค่าครองชีพ และการดำเนินนโยบายดอกเบี้ยของธนาคารกลางประเทศต่างๆ แต่รัฐบาลจะใช้ความพยายามอย่างเต็มที่ในการบริหารจัดการนโยบายด้านการส่งออก การสนับสนุนผู้ประกอบการในการแสวงหาตลาดที่มีศักยภาพ เพื่อรักษาการเติบโตเช่นเดียวกับที่เกิดขึ้นในปีนี้ พร้อมกับส่งเสริมภาคการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวอยู่ในขณะนี้ให้เป็นกำลังสำคัญผลักดันการเติบโตในระยะต่อไป