ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่าอาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกในการประชุมวันที่ 2-30 เม.ย.นี้ เนื่องจากตลาดการเงินยังคงตึงตัว แม้ว่าเฟดลดอัตราดอกเบี้ยแล้วหลายครั้งก็ตาม
เมื่อวานนี้ นายเบน เบอร์นันเก้ ประธานเฟดกล่าวต่อวุฒิสภาสหรัฐว่า เฟดพร้อมที่จะใช้มาตรการทุกด้านเพื่อรับมือกับทุกสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เรายอมรับว่าตลาดการเงินในขณะนี้อยู่ในภาวะตึงตัวมาก แต่ไม่ว่าจะดำเนินการใดๆ เฟดต้องกระทำอย่างรอบคอบ
"จำนวนบ้านถูกยึดที่พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์และอัตราว่างงานที่พุ่งสูงขึ้น กำลังสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจสหรัฐ ผมคาดว่าในช่วงครึ่งแรกของปีนี้นั้น ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) จะขยายตัวไม่มากนัก"
"ตลาดการเงินมีความผันผวนมากในช่วงที่ผ่านมา จึงอาจทำให้เศรษฐกิจสหรัฐเผชิญกับความไม่แน่นอนและยังคงมีปัจจัยเสี่ยงที่ฉุดรั้งเศรษฐกิจให้เผชิญช่วงขาลง ถึงกระนั้นก็ตาม เฟดได้พยายามอย่างยิ่งยวดที่จะยับยั้งไม่ให้เกิดภาวะถดถอย รวมถึงการปรับลดอัตราดอกเบี้ยหลายครั้ง และอัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ระบบการธนาคารเพื่อผ่อนคลายภาวะตึงตัว ซึ่งทำให้เราเชื่อมั่นว่าความพยายามครั้งแล้วครั้งเล่าของเราจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้แข็งแกร่งขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปีนี้" เบอร์นันเก้กล่าว
นายปีเตอร์ เครทซ์เมอร์ นักวิเคราะห์จากแบงค์ ออฟ อเมริกากล่าวว่า "การแสดงความคิดเห็นของเบอร์นันเก้สะท้อนภาพเศรษฐกิจสหรัฐที่มาถึงจุดที่ย่ำแย่ที่สุด และถือเป็นการส่งสัญญาณว่าจะลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกอย่างน้อย 0.50% ในการประชุมเดือนนี้"
ก่อนหน้านี้ นางเจเน็ท เยลเลน ผู้ว่าเฟดสาขาซานฟรานซิสโก กล่าวว่า "เจ้าหน้าที่ฝ่ายกำหนดนโยบายของเฟดต้องดำเนินในเวลาที่เหมาะสมเพื่อกระตุ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจ" สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/ปนัยดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--