นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ยอดส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปเดือน ต.ค.65 อยู่ที่ 94,228 คัน ขยายตัว 15.51% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่มูลค่าการส่งออกรถยนต์อยู่ที่ 84,917.32 ล้านบาท จาก 71,410.68 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
"ยอดส่งออกขยายตัวดีขึ้นหลังปัญหาชิ้นส่วนเซมิคอนดักเตอร์คลี่คลาย ทำให้สามารถผลิตได้เพิ่มมากขึ้น ขณะที่มีมูลค่าการส่งออกเพิ่มมากขึ้นกว่าจำนวนรถที่ส่งออกไปเนื่องจากเป็นรถยนต์ PPV ทีมีมูลค่าสูงกว่ารถยนต์นั่งและรถยนต์กระบะ" นายสุรพงษ์ กล่าว
ขณะที่ยอดส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปช่วง 10 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.-ต.ค.65) อยู่ที่ 800,672 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 5.48% โดยมีมูลค่าการส่งออกรถยนต์อยู่ที่ 727,468.96 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 9.60%
ขณะที่จำนวนรถยนต์ทั้งหมดที่ผลิตได้ในเดือนต.ค.มีทั้งสิ้น 170,717 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 10.83% โดยมีสัดส่วนการผลิตเพื่อส่งออกเพิ่มขึ้น 9.75% หลังได้รับการส่งมอบชิ้นส่วน เซมิคอนดักเตอร์ (ชิป) เพิ่มขึ้นในรถยนต์นั่งบางรุ่น ทำให้การผลิตเพื่อส่งออกมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นจาก 55.01% เป็น 57.13% ของยอดผลิตทั้งหมด และผลิตเพื่อขายในประเทศเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 12.31% แต่ลดลง 4.75% จากเดือน ก.ย.65 ส่งผลให้จำนวนรถยนต์ที่ผลิตได้ในช่วง 10 เดือนปีนี้มีจำนวนทั้งสิ้น 1,534,754 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 12.36%
"การผลิตรถยนต์กลับคืนสู่ภาวะปกติหลังได้รับมอบชิปและชิ้นส่วน แต่กำลังกังวลว่าจีนกลับมาล็อกดาวน์จะส่งผลให้เกิดปัญหาขาดแคลนเหมือนช่วงเดือน เม.ย.-พ.ค.หรือไม่ โดยคาดว่ากำลังการผลิตจะทะลุเป้า 1.75 ล้านคัน กลับมาอยู่ที่เป้าเดิม 1.8 ล้านคัน แต่ไม่กล้าปรับเป้าเพราะไม่แน่ใจว่าจีนจะกลับมาล็อกดาวน์อีกหรือไม่" นายสุรพงษ์ กล่าว
ส่วนยอดขายรถยนต์ภายในประเทศของเดือน ต.ค.65 มีจำนวนทั้งสิ้น 64,618 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 0.24% ขยายตัวตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ หลังผ่อนปรนมาตรการให้นักท่องเที่ยวและนักลงทุนต่างชาติเข้าประเทศสะดวกขึ้น ทำให้มีเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ คนมีงานทำและมีรายได้เพิ่มขึ้น รวมทั้งการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล เช่น คนละครึ่ง เราเที่ยวด้วยกัน การส่งออกยังคงเติบโต การประกันรายได้เกษตรกร การช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางที่ได้รับผลกระทบจากค่าครองชีพที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งการออกรถยนต์รุ่นใหม่ แต่ลดลง 12.86% จากเดือน ก.ย.65 เนื่องจากเกิดเหตุน้ำท่วม
"ยอดขายในประเทศปีนี้ หากรวมรถยนต์อีวีด้วยมีโอกาสเป็นไปได้สูงที่จะเปิดเป้า 8.5 แสนคัน ไปอยู่ที่ 8.6-8.7 แสนคัน" นายสุรพงษ์ กล่าว
*ยานยนต์ไฟฟ้าป้ายแดง
ประเภท BEV เดือน ต.ค.65 จดทะเบียนใหม่ 1,960 คัน เพิ่มขึ้น 288.89% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ยอด 10 เดือน อยู่ที่ 15,258 คัน เพิ่มขึ้น 230.62% ส่งผลให้มียอดสะสมถึงวันที่ 31 ต.ค. รวม 26,527 คัน
ประเภท HEV เดือน ต.ค.65 จดทะเบียนใหม่ 5,036 คัน เพิ่มขึ้น 121.65% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้ยอด 10 เดือน อยู่ที่ 4,847 คัน เพิ่มขึ้น 78.36% ส่งผลให้มียอดสะสมถึงวันที่ 31 ต.ค. รวม 250,743 คัน
ประเภท PHEV ในเดือน ต.ค.65 จดทะเบียนใหม่ 899 คัน เพิ่มขึ้น 84.98% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ยอด 10 เดือน อยู่ที่ 9,691 คัน เพิ่มขึ้น 65.35% ส่งผลให้มียอดสะสมถึงวันที่ 31 ต.ค. รวม 40,790 คัน