นายวรวุฒิ กาญจนกูล นายกสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน (Home Builder Association : HBA) คาดแนวโน้มตลาดรับสร้างบ้านในปี 66 น่าจะขยายตัวต่อเนื่องจากปี 65 ตามอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ แม้มีปัจจัยลบ ได้แก่ อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น ความไม่แน่นอนของราคาน้ำมัน รวมถึงการอ่อนค่าของเงินบาท ที่มีผลต่อต้นทุนวัสดุก่อสร้าง รวมถึงค่าขนส่ง
จากที่ตลาดรับสร้างบ้านในปี 65 มีการเติบโตที่ดี แสดงให้เห็นว่าความต้องการบ้านพักอาศัยยังมีอยู่ จึงน่าจะมีแรงส่งให้ตลาดรับสร้างบ้านในปี 66 มีโอกาสขยายตัวต่อเนื่องจากผู้บริโภคที่เริ่มรับรู้และหันมาใช้บริการบริษัทรับสร้างบ้านมากขึ้น รวมถึงเศรษฐกิจของประเทศโดยรวม เช่น คาดการณ์อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของไทย การท่องเที่ยวที่เริ่มฟื้นตัว
สำหรับภาพรวมในปี 65 เป็นการทำงานท่ามกลางความท้าทายและความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้น ได้แก่ การระบาดของโควิด-19 ต้นทุนจากวัสดุก่อสร้างปรับตัวสูง ต้นทุนค่าแรง รวมถึงภาพรวมเศรษฐกิจโดยรวม แต่สมาคมฯ สามารถสร้างการเติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้จากกลยุทธ์การทำงาน และการผนึกกำลังกับพันธมิตรในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ให้เกิดขึ้น โดยมีมูลค่าตลาดรับสร้างบ้านรวม 12,500 ล้านบาท
นอกจากนี้ สมาคมฯ ยังทำงานร่วมกับพันธมิตรในโครงการต่างๆ ที่ได้ริเริ่ม พร้อมสานต่อความร่วมมือตั้งแต่ปี 65 ต่อเนื่องในปี 2566 ได้แก่ โครงการส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานและพลังงานทดแทนในภาคที่อยู่อาศัย, โครงการจัดทำมาตรฐานการก่อสร้างบ้านพักอาศัย และโครงการรับนักศึกษาทวิภาคีร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา, โครงการบ้านประหยัดพลังงาน ร่วมกับพันธมิตร 5 หน่วยงาน ภายใต้โครงการการส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานและพลังงานทดแทนในภาคที่อยู่อาศัย
ปัจจุบันมีบริษัทสร้างบ้านร่วมเป็นสมาชิกสมาคมฯ รวม 135 บริษัท แบ่งออกเป็น บริษัทรับสร้างบ้าน 72 บริษัท และวัสดุก่อสร้าง 63 บริษัท ซึ่งมีแนวโน้มขยายตัวมากขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่ต่างจังหวัด และปริมณฑล