ธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 35.45 บาท/ดอลลาร์ จากช่วงเย็นวานนี้ที่ ระดับ 35.44 บาท/ดอลลาร์ ก่อนที่จะปรับตัวแข็งค่าลงมาอยู่ที่ 35.35 บาท/ดอลลาร์ เมื่อเวลา 08.45 น. คาดมีเงินทุนต่าง ประเทศไหลเข้ามา โดยเมื่อวานนี้ มีเงินทุนต่างประเทศไหลเข้ามาในตลาดหุ้น และตลาดพันธบัตร ราว 5 พันล้านบาท
"เปิดตลาดเช้านี้บาททรงตัว ก่อนที่จะปรับตัวแข็งค่าสวนทางกับภูมิภาค คาดว่าจะมี Flow เข้ามาต่อเนื่องจากวานนี้"
นักบริหารเงิน ระบุ
โดยปัจจัยที่ตลาดติดตามวันนี้ ได้แก่ การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ซึ่งคาดว่ารอบนี้จะมีมติปรับขึ้น
ดอกเบี้ยอีก 0.25% ไปสู่ระดับ 1.25% ส่วนปัจจัยต่างประเทศที่สำคัญ ได้แก่ มาตรการแก้ไขปัญหาโควิด-19 ในจีน และถ้อยแถลง
ของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)
นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 35.25 - 35.55 บาท/ดอลลาร์
THAI BAHT FIX 3M (29 พ.ย.) อยู่ที่ระดับ 1.10272% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 1.60518%
SPOT ล่าสุด อยู่ที่ระดับ 35.36250 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ 138.45 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 138.05 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ 1.0350 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.0386 ดอลลาร์/ยูโร
- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 35.634 บาท/
ดอลลาร์
- คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ประชุมเพื่อพิจารณากำหนดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย โดยตลาดคาดว่ารอบนี้
กนง.จะมีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% ไปสู่ระดับ 1.25% รวมทั้งการออกมาให้ความเห็นต่อทิศทางเศรษฐกิจไทยของคณะ
กรรมการ กนง.ด้วย
- นอกจากนี้ ต้องติดตามการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจการเงินเดือน ต.ค. ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)
- ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบระดับสัดส่วนหนี้สาธารณะ ปีงบประมาณ 2565 โดยหนี้สาธารณะคงค้าง ณ
วันที่ 30 ก.ย.65 มีจำนวน 10.37 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็น 60.41% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ซึ่งส่วนใหญ่เป็น
หนี้ในประเทศ 98.29%
- สำนักข่าว CNBC รายงานว่า กรุงเทพฯติดอันดับ 6 ของเมืองที่น่าอยู่และน่าทำงานที่สุดในโลกสำหรับชาวต่างชาติ
ในปีนี้ โดยเหนือกว่าสิงคโปร์ที่อยู่ในอันดับ 10
- ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันอังคาร
(29 พ.ย.) ขณะที่นักลงทุนจับตาถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดในวันนี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ย
ของเฟด
- นายกรัฐมนตรีแคนาดา สนับสนุนให้ประชาชนจีนทุกคนได้รับอนุญาตให้ประท้วงและแสดงความต้องการของตัวเอง
และชาวแคนาดากำลังจับตาดูการประท้วงต่อต้านนโยบายโควิดเป็นศูนย์ (Zero-Covid Policy) ของจีนอย่างใกล้ชิด
- กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และพันธมิตร (โอเปกพลัส) เตรียมมีมติปรับลดกำลังการผลิต 2 ล้าน
บาร์เรล/วัน สำหรับเดือน ธ.ค.ในการประชุมกำหนดนโยบายวันที่ 4 ธ.ค.65 อันเนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับอุปสงค์ที่ลดลงในจีน
- ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ ที่จะมีการรายงานในวันนี้ ได้แก่ ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนพ.ย.จาก
ADP, ผลิตภัณฑ์มวลรวมภาย ในประเทศ (GDP) ไตรมาส 3/2565 (ประมาณการครั้งที่ 2), ตัวเลขการเปิดรับสมัครงานและ
อัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) เดือนต.ค., ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือน
ต.ค., สต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) และรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ หรือ Beige
Book จากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)