องค์การเพื่อความร่วมมือและการพัฒนาเศรษฐกิจ (OECD) แนะนำว่า ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ยังไม่ควรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยประเภทระยะสั้น จนกว่าจะมีข้อมูลบ่งชี้อัตรเงินเฟ้อในประเทศสูงขึ้น
"เศรษฐกิจญี่ปุ่นยังคงขยายตัวได้ดี โดยคาดว่าจะขยายตัวในอัตรา 1.5-2% ในอีก 2 ปีข้างหน้า อย่างไรก็ตาม ญี่ปุ่นยังต้องเผชิญความท้าทายอีกมาก ไม่ว่าจะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจให้ขยายตัวอย่างยั่งยืน การใช้นโยบายพยุงเศรษฐกิจให้หลุดพ้นภาวะเงินฝืด และหนี้ภาคสาธารณะที่พุ่งสูงขึ้น" OECD กล่าว
เมื่อปลายเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา รัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (ซีพีไอ) พื้นฐาน เดือนก.พ.ของญี่ปุ่นขยายตัวขึ้น 1.0% จากปีที่แล้ว ซึ่งเป็นอัตราการขยายตัวที่รวดเร็วที่สุดในรอบเกือบ 10 ปี และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ทั้งนี้เนื่องจากราคาน้ำมันเบนซินและอาหารปรับตัวสูงขึ้น
ก่อนหน้านี้นักวิเคราะห์ในโพลล์ธอมสัน/ไออาร์เอฟ มาร์เก็ตส์คาดการณ์ว่า ดัชนีซีพีไอพื้นฐานของญี่ปุ่นจะขยายตัวขึ้น 0.9% ในเดือนก.พ.
ส่วนดัชนีซีพีไอทั่วไปเดือนก.พ.ขยายตัว 1.0% เช่นกัน และเป็นการปรับตัวขึ้นติดต่อกัน 5 เดือน
ทั้งนี้ ราคาน้ำมันเบนซินพุ่งขึ้น 18.2% ราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น 4.0% และราคาอาหารเพิ่มขึ้น 1.2%
ก่อนหน้านี้ ธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย (เอดีบี) กล่าวว่า ญี่ปุ่นมีบทบาทสำคัญต่ออัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจและเสถียรภาพในภูมิภาคเอเชีย เนื่องจากญี่ปุ่นเป็นตลาดส่งออกรายใหญ่และให้ความช่วยเหลือด้านการเงินต่อหลายประเทศในเอเชีย
"ญี่ปุ่นเป็นตลาดส่งออกรายใหญ่ ดังนั้นเหตุการณ์ใดๆที่เกิดขึ้นในญี่ปุ่นจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก และในฐานะที่ญี่ปุ่นให้ความช่วยเหลือประเทศอื่นๆในเอเชียมาโดยตลอด จึงทำให้ญี่ปุ่นมีบทบาทที่สำคัญอย่างยิ่งในภูมิภาคแห่งนี้" ADB กล่าว สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--