นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 35.05 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจาก ช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 35.27 บาท/ดอลลาร์ เมื่อคืนนี้ประธานธนาคารสหรัฐฯ (เฟด) ส่งสัญญาณว่าจะขึ้นดอกเบี้ยในเดือนธ.ค. ในอัตราที่ ชะลอลง ส่งผลให้สกุลเงินดอลลาร์อ่อนค่าเทียบกับทุกสกุลเงิน สำหรับปัจจัยวันนี้ คือ ให้ระมัดระวัง Flow ส่งออกทองคำ เนื่องจากเมื่อเช้านี้ทองคำราคาพุ่งขึ้นแรง และยังต้องติดตามการ เคลื่อนไหวของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ
นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 34.85 - 35.20 บาท/ดอลลาร์
THAI BAHT FIX 3M (30 พ.ย.) อยู่ที่ระดับ 1.05497% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 1.54785%
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ 136.85 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 138.79 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ 1.0246 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.0347 ดอลลาร์/ยูโร
- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 35.350 บาท/ดอลลาร์
- ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ เปิดเผยว่า บริษัท ฟิทซ์ เรตติ้ง จำกัด (Fitch Ratings) ได้คงอันดับความ
น่าเชื่อถือของประเทศไทย (Sovereign Credit Rating) ที่ BBB+ และคงมุมมองความน่าเชื่อถือของประเทศไทย อยู่ในระดับมี
เสถียรภาพ ดังนี้ 1.ฟิตซ์เรตติ้ง คาดว่า เศรษฐกิจไทยปีนี้จะเติบโต 3.3% และเพิ่มขึ้นเป็น 3.8% ในปีหน้าสูงกว่ากลุ่มประเทศที่มีอันดับ
ความน่าเชื่อถือ ระดับเดียวกันมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 2% โดยมีปัจจัยสนับสนุนสำคัญ คือการฟื้นตัวอย่างมากของภาคการท่องเที่ยว คาดว่านักท่อง
เที่ยวจากต่างประเทศจะเพิ่มขึ้นจาก 10.3 ล้านคน ในปีนี้เป็น 24 ล้านคน ในปีหน้า เนื่องจากการเปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบและ
ประกาศปรับโรคโควิด-19 จากการเป็นโรคติดต่อร้ายแรงเป็นโรคประจำถิ่น ตลอดจนอุปสงค์ภายในประเทศปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง จาก
การกระตุ้นการใช้จ่ายของภาครัฐ และอัตราเงินเฟ้อที่ผ่อนคลาย
- โพล "ส.อ.ท." เผยผลสำรวจผู้บริหารส่วนใหญ่ต้องการให้ภาครัฐคงค่าไฟฟ้างวด ม.ค.-เม.ย.66 อยู่ที่ 4.72 บาท/
หน่วย ประคองภาคอุตสาหกรรมสู้วิกฤติเศรษฐกิจ เสนอรัฐอนุรักษ์พลังงาน ใช้พลังงานหมุนเวียน
- โปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง 3 รมต.ใหม่ "ธนกร วังบุญคงชนะ" รมต.ประจำสำนักนายกฯ-กลุ่มปากน้ำพปชร.ผงาด "สุนทร
ปานแสงทอง" รมช.เกษตรฯ "นริศ ขำนุรักษ์" ปชป.นั่ง รมช.มหาดไทย นายกฯเตรียมนำเข้าเฝ้าฯถวายสัตย์ 1 ธันวาคมนี้
- กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เผยสัดส่วนโอมิครอนเพิ่มเร็วโดย BA.2.75 สัปดาห์เดียวเพิ่มขึ้นเป็น 63.3% ติดเชื้อใน
ประเทศทะลุ 58.8% ขณะที่ BN.1 และลูกหลานมากกว่าสัปดาห์ก่อน 4 เท่า ส่วนสายพันธุ์ XBB.1 เจอ 4 ราย และ BQ.1 พบ 7 ราย
ขณะที่สายพันธุ์ XBC หรือ เดลตาครอน ลูกผสมระหว่าง เดลต้ากับโอมิครอน BA.2 พบในไทยแล้ว 1 ราย รักษาหายแล้ว ยังไม่พบความ
รุนแรง แต่แพร่เร็วติดง่าย
- กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนต.ค.ปรับตัวขึ้น 7.7% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งต่ำกว่าที่
นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 7.9% และชะลอตัวจากระดับ 8.2% ในเดือนก.ย.
- กระทรวงพาณิชย์สหรัฐ เปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 2 สำหรับผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตร
มาส 3 โดยระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 2.9% ในไตรมาสดังกล่าว สูงกว่าตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 ซึ่งอยู่ที่ระดับ 2.6% และสูง
กว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 2.7%
- ออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐเพิ่มขึ้นเพียง 127,000
ตำแหน่งในเดือนพ.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 190,000 ตำแหน่ง หลังจากพุ่ง
ขึ้น 239,000 ตำแหน่งในเดือนต.ค.
- สำนักงานสถิติของกระทรวงแรงงานสหรัฐ เปิดเผยผลสำรวจการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน
(JOLTS) พบว่า ตัวเลขการเปิดรับสมัครงาน ซึ่งเป็นมาตรวัดอุปสงค์ในตลาดแรงงาน ลดลง 353,000 ตำแหน่ง สู่ระดับ 10.3 ล้าน
ตำแหน่งในเดือนต.ค. และสอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
- ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้กล่าวปาฐกถาว่าด้วยนโยบายการเงินและการคลัง โดยระบุว่า เฟดจะชะลอการ
ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างเร็วที่สุดในเดือนธ.ค. ขณะเดียวกันเตือนว่า ภารกิจของเฟดในการต่อสู้กับเงินเฟ้อนั้นยังอีกยาวไกล และยังมีคำ
ถามสำคัญหลายอย่างที่เฟดยังไม่ได้รับคำตอบ ซึ่งรวมถึงคำถามที่ว่าอัตราดอกเบี้ยจำเป็นต้องถูกปรับขึ้นไปสู่ระดับสูงสุดที่เท่าใดและใช้ระยะ
เวลานานเท่าใด
ทั้งนี้ นักลงทุนมองว่าถ้อยแถลงดังกล่าวเป็นการส่งสัญญาณว่าเฟดจะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป และเป็นปัจจัยที่สร้าง แรงกดดันต่อตลาดทองคำ
- FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า หลังจากประธานเฟด ส่งสัญญาณชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในงาน
เสวนาดังกล่าวแล้ว นักลงทุนให้น้ำหนักเพียง 25% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมเดือนธ.ค. เทียบกับช่วงก่อนแถลง
ที่นักลงทุนให้น้ำหนักสูงถึง 75%
- ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันพุธ ( พ.ย.)
หลังจากประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวว่า เฟดจะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธ.ค.
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันพุธ (30 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนมีปฏิกิริยาเชิงลบต่อถ้อยแถลงของประธาน
ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งกล่าวว่า ภารกิจของเฟดในการต่อสู้กับเงินเฟ้อนั้น ยังอีกยาวไกล ซึ่งนักลงทุนมองว่าเป็นการส่งสัญญาณถึง
การเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป
- ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญวันนี้ สหรัฐจะรายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และรายได้และการใช้จ่ายส่วน
บุคคลเดือนต.ค., ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายเดือนพ.ย.จากเอสแอนด์พี โกลบอล และดัชนีภาคการผลิตเดือน
พ.ย.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เช่นเดียวกับการใช้จ่ายด้านการก่อสร้างเดือนต.ค.
- นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในวันศุกร์นี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าตัวเลขจ้าง
งานจะเพิ่มขึ้นเพียง 200,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ย. หลังจากเพิ่มขึ้น 261,000 ตำแหน่งในเดือนต.ค. และคาดว่าอัตราว่างงานเดือน
พ.ย.จะทรงตัวที่ระดับ 3.7%