ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) มองกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทสัปดาห์ถัดไป (5-9 ธ.ค.) ที่ระดับ 34.40-35.00 บาท/ดอลลาร์ จากปิดตลาดที่ระดับ 34.76 บาท/ดอลลาร์ หลังแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบ 5 เดือนครึ่งที่ 34.71 บาท/ดอลลาร์ ในระหว่างสัปดาห์
โดยเงินบาทแข็งค่าขึ้นสอดคล้องกับสกุลเงินเอเชียอื่นๆ โดยมีแรงหนุนจากถ้อยแถลงของประธานเฟด ซึ่งกระตุ้นการคาดการณ์เกี่ยวกับแนวโน้มการชะลอขนาดการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐฯ ในการประชุมรอบสุดท้ายของปี ประกอบกับเงินหยวนทยอยฟื้นตัวขึ้นท่ามกลางความหวังว่าทางการจีนน่าจะทยอยผ่อนปรนมาตรการควบคุมสถานการณ์โควิดในระยะข้างหน้า เงินบาทรักษาทิศทางแข็งค่าไว้ได้อย่างต่อเนื่อง ทั้งในช่วงก่อนและหลังการประชุมกนง. ซึ่งมีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยอีก 0.25% ไปที่ 1.25%
นอกจากนี้ การแข็งค่าของเงินบาทยังสอดคล้องกับสถานะพอร์ตการลงทุนระหว่างวันที่ 28 พ.ย.-2 ธ.ค. 65 ของนักลงทุนต่างชาติที่เข้าซื้อสุทธิพันธบัตรและหุ้นไทย 25,269 ล้านบาท และ 4,493 ล้านบาท ตามลำดับ
ขณะที่ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตามในสัปดาห์หน้า ได้แก่ ตัวเลขอัตราเงินเฟ้อของไทยในเดือนพ.ย. ทิศทางเงินทุนต่างชาติ และท่าทีต่อมาตรการโควิดของทางการจีน
ด้านตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนต.ค. ดัชนี PMI และ ISM ภาคบริการ และดัชนีราคาผู้ผลิตเดือนพ.ย. ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (เบื้องต้น) เดือนธ.ค. และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์
นอกจากนี้ตลาดยังรอติดตามผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางออสเตรเลีย ธนาคารกลางแคนาดา และธนาคารกลางอินเดีย ดัชนี PMI ภาคบริการเดือนพ.ย. ของจีน ยูโรโซนและอังกฤษ รวมไปถึงตัวเลขเศรษฐกิจเดือนพ.ย. ของจีน อาทิ ตัวเลขการส่งออก ดัชนีราคาผู้บริโภคและดัชนีราคาผู้ผลิต