ราคาข้าวตลาดโลกพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์หลังฟิลิปปินส์วางแผนนำเข้า 1 ล้านตัน

          ราคาข้าวในตลาดโลกพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ หลังจากรัฐบาลฟิลิปปินส์ประกาศแผนซื้อข้าวจำนวน 1 ล้านตันเพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่าจะมีธัญญาหารเพียงพอต่อความต้องการภายในประเทศ โดยในการซื้อขายที่ CBOT เมื่อคืนนี้ ราคาข้าวพุ่งขึ้น 2.4% แตะระดับ 21.50 ดอลลาร์/100 ปอนด์ ซึ่งสูงกว่าปีที่แล้วถึง 2 เท่า
          นางกลอเรีย มาคาปากัล อาร์โรโย ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ออกแถลงการณ์ในวันนี้ว่า ฟิลิปปินส์เปิดประมูลเพื่อซื้อข้าวจากต่างประเทศในปริมาณ 500,000 ตันในวันที่ 17 เม.ย. และจะสั่งซื้ออีก 500,000 ตันในเดือนพ.ค.
          ธนาคารโลกระบุว่า จีน อียิปต์ เวียดนาม และอินเดีย ซึ่งส่งออกข้าวรวมกันในสัดส่วนกว่า 1 ใน 3 ของยอดส่งออกข้าวทั่วโลก ประกาศใช้มาตรการควบคุมการขายข้าวในปีนี้ เพื่อปกป้องสต็อคข้าวให้เพียงพอต่อความต้องการภายในประเทศ พร้อมกล่าวว่า 33 ประเทศตั้งแต่เม็กซิโกไปจนถึงเยเมน จะเกิดเหตุการณ์ไม่สงบในชุมชนหลังจากราคาอาหารและพลังงานพุ่งขึ้นติดต่อกัน 6 ปี
          นายอาบาห์ โอฟอน นักวิเคราะห์ด้านสินค้าโภคภัณฑ์จากสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด กล่าวว่า "รัฐบาลจำเป็นต้องใช้มาตรการเพื่อขจัดความตึงเครียดในสังคมอย่างเร่งด่วนหลังจากราคาอาหารพุ่งขึ้นอย่างรุนแรง หลายประเทศอาจจะไม่สามารถนำเข้าข้าวได้มากพอเนื่องจากกลุ่มผู้ส่งออกควบคุมปริมาณการส่งออก"
          นางอาร์โรโยประกาศในวันนี้ ฟิลิปปินส์จะจำคุกผู้ที่ขโมยข้าวจากประชาชน พร้อมกล่าวว่าฟิลิปปินส์อาจนำข้าวเพิ่มขึ้นอีกถึง 42% เป็น 2.7 ล้านตันในปีนี้ จากปีที่แล้วที่ระดับ 1.9 ล้านตัน เพื่อสกัดกั้นการเก็งกำไรของเทรดเดอร์ภายในประเทศ
          ด้านนางโจเซทเต ชีแรน ผู้อำนวยการโครงการอาหารโลกแห่งองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) กล่าวว่า ราคาอาหารที่พุ่งขึ้นจะทำให้อัตราเงินเฟ้อทั่วโลกสูงขึ้นด้วย โดยในรอบสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 22 มี.ค. ต้นทุนค้าส่งอาหารในอินเดียพุ่งขึ้น 7% ซึ่งเป็นการขยายตัวที่รวดเร็วที่สุดในรอบ 3 ปี 
          "นอกจากนี้ ราคาอาหารที่สูงขึ้นจะทำให้เกิดการจลาจล อาทิ การจลาจลแย่งชิงอาหารในไฮติเมื่อเร็วๆนี้ ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต 4 คน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในไฮติสะท้อนให้เห็นว่าเมื่อราคาอาหารพุ่งสูงขึ้น คนยากจนจะได้รับความเดือดร้อนอย่างมาก" นางชีแรนกล่าว สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน