ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 34.78/79 คาดสัปดาห์หน้า 34.60-35.00 จับตาเงินเฟ้อสหรัฐ-ประชุมเฟด

ข่าวเศรษฐกิจ Friday December 9, 2022 17:38 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 34.78/79 บาท/ดอลลาร์ จากช่วง เช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 34.70 บาท/ดอลลาร์ ระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 34.60 - 34.90 บาท/ดอลลาร์

วันนี้เงินบาทค่อนข้างอ่อนค่า ปัจจัยจากประเทศจีนผ่อนคลายมาตรการโควิด-19 มากขึ้น เช่น เซี่ยงไฮ้ยกเลิกกฎการ แสดงผลตรวจโควิดก่อนเข้าร้านอาหาร และมีการเปลี่ยนนโยบายให้ผู้ติดเชื้อโควิด-19 สามารถกักตัวที่บ้านได้ ด้านสกุลเงินใน ภูมิภาคส่วนใหญ่แข็งค่า เช่น เกาหลี เวียดนาม และอินโดนีเซีย

สำหรับปัจจัยที่ต้องติดตามคืนนี้ คือ ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนพ.ย. ของสหรัฐฯ

นักบริหารเงิน คาดว่า วันอังคารเงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 34.60 - 35.00 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 136.28/31 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 136.13 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0553/0556 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.0578 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,623.13 จุด เพิ่มขึ้น 2.64 จุด (+0.16%) มูลค่าการซื้อขาย 50,594 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 167.44 ลบ. (SET+MAI)
  • ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) ปรับขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้ในอัตรา 0.125%-0.25% ต่อปี โดยนับเป็นการปรับขึ้นอัตรา
ดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายย่อยของธนาคารเป็นครั้งแรก หลังจากที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย
เป็นครั้งที่ 3 ในปี 65
  • ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า ในปี 66 นักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวไทยจะอยู่ที่ราว 20-24 ล้านคน เพิ่มมากขึ้น
จากปี 65 โดยมองว่ามีการทำแคมเปญการตลาดกระตุ้นการท่องเที่ยวไทยในต่างประเทศ รวมถึงมาตรการสนับสนุนการท่องเที่ยว
และการจัดงาน APEC 2022 ที่ทำให้ไทยได้รับความสนใจจากชาวต่างชาติมากขึ้น
  • สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานในวันนี้ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการ
ใช้จ่ายของผู้บริโภค ปรับตัวขึ้น 1.6% ในเดือนพ.ย.เมื่อเทียบเป็นรายปี ชะลอลงจากเดือนต.ค.ที่ขยายตัว 2.1% และสอดคล้องกับ
การคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
  • นายกรัฐมนตรีจีน กล่าวในระหว่างการประชุมกับผู้นำองค์กรระดับโลกที่เมืองหวงซาน มณฑลอันฮุยว่า เศรษฐกิจ
จะฟื้นตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังจากรัฐบาลเริ่มดำเนินการเปลี่ยนแปลงด้านนโยบายควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19
  • หัวหน้าฝ่ายการลงทุนประจำเกรทเทอร์ ไชน่าของธนาคารเครดิตสวิส เปิดเผยว่า อัตราเงินเฟ้อของจีนมีแนวโน้ม
จะยังคงอยู่ต่ำกว่า 3% ต่อไปในช่วง 12-18 เดือนข้างหน้า และธนาคารกลางจีนก็พึงพอใจกับตัวเลขดังกล่าว
  • นักเศรษฐศาสตร์ของเจพีมอร์แกน เชส คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจจีนมีโอกาสขยายตัวได้ถึง 5% ในปี 66 โดยขึ้นอยู่
กับการจัดการเรื่องการเปิดประเทศของคณะผู้บริหารชุดใหม่ของรัฐบาลจีน หลังจากจีนต้องล็อกดาวน์อย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลา
หลายปีที่ผ่านมา
  • เงินหยวนของจีนแข็งค่าขึ้นอย่างชัดเจนในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา หลังจากจีนประกาศผ่อนปรนการบังคับใช้มาตรการ
ควบคุมโรคโควิด-19 โดยเงินหยวนที่ซื้อขายในตลาดต่างประเทศและในประเทศทะลุระดับ 7 หยวนต่อดอลลาร์สหรัฐเป็นครั้งแรกนับ
ตั้งแต่กลางเดือนก.ย. ซึ่งเป็นระดับจิตวิทยาสำคัญที่ทางการจีนพยายามปกป้องเอาไว้มาโดยตลอด
  • รมว.คลังสหรัฐ เชื่อมั่นว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะสามารถหลักเลี่ยงภาวะถดถอยได้ เมื่อพิจารณาจากปัญหาคอขวดด้าน
ห่วงโซ่อุปทาที่เริ่มผ่อนคลายลง และการที่สหรัฐยังไม่เผชิญกับวงจรค่าจ้าง-เงินเฟ้อแบบงูกินหาง (wage-price spiral)
  • ผลสำรวจความคิดเห็นของนักเศรษฐศาสตร์ ชี้เศรษฐกิจสหรัฐจะเข้าสู่ภาวะถดถอยระยะสั้น และไม่รุนแรงในปีหน้า
โดยคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.50% ในวันที่ 14 ธ.ค.
  • ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ ในสัปดาห์หน้า ได้แก่ ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนพ.ย., ธนาคารกลาง
สหรัฐ (เฟด) ประชุมนโยบายการเงินและแถลงมติอัตราดอกเบี้ย, จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีภาคการผลิต
(Empire State Manufacturing Index) เดือนธ.ค. เป็นต้น

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ