น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการแก้หนี้ภาคครัว โดยเฉพาะกลุ่มนักเรียนนักศึกษา ซึ่งนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการว่าในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ออกมาตรการให้ความช่วยเหลือผู้เป็นหนี้กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ซึ่ง กยศ.ได้กำหนดมาตรการในการช่วยเหลือ อาทิ การลดเบี้ยปรับ การลดเงินต้น รวมถึงได้ดำเนินการอื่นๆ เช่น ยกเลิกการกำหนดให้มีผู้ค้ำประกัน ชะลอการฟ้องร้องคดี งดการขายทอดตลาดทรัพย์สินของผู้กู้ยืมเงินและหรือผู้ค้ำประกัน
โดยล่าสุด กยศ. ได้ขยายระยะเวลามาตรการลดหย่อนหนี้อีก 6 เดือน จากเดิมสิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค. 65 ออกไปเป็นสิ้นสุดวันที่ 30 มิ.ย. 66 เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ 2566 ให้กับผู้กู้ยืมเงินกองทุน รวมถึงช่วยเหลือผู้กู้ยืมเงินที่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจได้มีทางเลือกในการผ่อนชำระมากขึ้น สำหรับมาตรการลดหย่อนหนี้ มีดังนี้
1. ลดดอกเบี้ยเงินกู้ยืมจากเดิม 1% ต่อปี เป็น 0.01% ต่อปี สำหรับผู้กู้ยืมเงินที่อยู่ระหว่างการชำระเงินคืนกองทุนและไม่เคยเป็นผู้ผิดนัดชำระหนี้
2. ลดเงินต้น 5% สำหรับผู้กู้ยืมเงินที่ไม่เคยเป็นผู้ผิดนัดชำระหนี้และต้องการปิดบัญชีในคราวเดียว
3. ลดเบี้ยปรับ 80% สำหรับผู้กู้ยืมเงินที่ยังไม่ถูกดำเนินคดีที่ชำระหนี้ค้างทั้งหมดให้มีสถานะปกติ หรือไม่ค้างชำระ
4. ลดอัตราการคิดเบี้ยปรับเหลือ 0.5% ต่อปี สำหรับผู้กู้ยืมเงินที่ยังไม่ถูกดำเนินคดีและไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามกำหนด
5. ลดเบี้ยปรับ 100% สำหรับผู้กู้ยืมเงินทุกกลุ่มที่ชำระหนี้ปิดบัญชี
ทั้งนี้ ผู้กู้ยืมเงินที่ยังไม่ถูกดำเนินคดี สามารถชำระได้ที่ธนาคารกรุงไทย และธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทยทุกสาขา ส่วนผู้กู้ยืมเงินที่ถูกดำเนินคดีแล้ว ต้องลงทะเบียนขอรับสิทธิ และนัดหมายวันที่ประสงค์จะชำระหนี้ปิดบัญชีได้ที่ https://www.studentloan.or.th/promotion โดยผู้กู้ยืมเงินต้องชำระค่าทนายความ และค่าฤชาธรรมเนียมศาล ให้เสร็จสิ้นก่อนปิดบัญชี