น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้ผลักดันให้เริ่มใช้โครงการ "ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์" เป็นจุดเริ่มต้นตามนโยบายเปิดประเทศอย่างค่อยเป็นค่อยไป จนประสบผลสำเร็จเป็นอย่างดี ขยายออกไปยังพื้นที่อื่นๆ และนำมาสู่การเปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบในปัจจุบัน
นอกจากโครงการ "ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์" ยังมีมาตรการขยายระยะเวลาพำนักของชาวต่างชาติ และมาตรการส่งเสริมการถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศในประเทศไทย ทำให้ทุกธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยวฟื้นตัว และมีรายได้อย่างก้าวกระโดด มีการดึงดูดเม็ดเงินจากต่างชาติเข้ามาหมุนเวียนในเศรษฐกิจ กระจายรายได้ไปยังพื้นที่ต่างๆ ฟื้นฟูเศรษฐกิจภายในประเทศให้เข้มแข็งและเติบโตอย่างรวดเร็ว
ผนวกกับมาตรการสาธารณสุข และความร่วมมือของคนไทยและเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วน ส่งผลให้มีการฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ โดยเฉพาะธุรกิจท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวแบบกลับคืนมาได้อย่างรวดเร็วแบบ "V-Shape" โดยเฉพาะผลสำเร็จที่เกินความคาดหมาย จากจำนวนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทย ในปี 2565 ครบ 10 ล้านคนเมื่อวันที่ 10 ธันวาคมที่ผ่านมา
การฟื้นตัวของภาคท่องเที่ยวไทยใน 10 เดือนปี 65 (ม.ค.-ต.ค.) ดึงดูดเม็ดเงินเข้าประเทศเป็นจำนวนมาก
- จังหวัดที่มีรายได้จากการท่องเที่ยวสูงสุด 10 อันดับ ได้แก่
1.ภูเก็ต 127,927 ล้านบาท 2.ชลบุรี 13,283 ล้านบาท 3.สุราษฎร์ธานี 7,586 ล้านบาท 4.เชียงใหม่ 4,246 ล้านบาท 5.สงขลา 3,602 ล้านบาท 6.พังงา 2,582 ล้านบาท 7.เชียงราย 1,585 ล้านบาท 8.กระบี่ 1,408 ล้านบาท 9.ประจวบคีรีขันธ์ 854 ล้านบาท 10.หนองคาย 526 ล้านบาท
- จังหวัดที่มีชาวต่างชาติเยือนมากที่สุด 10 อันดับ ได้แก่
1.ภูเก็ต 2,329,894 คน 2.ชลบุรี 975,026 คน 3.สุราษฎร์ธานี 606,812 คน 4.สงขลา 581,808 คน 5.เชียงใหม่ 496,111 คน 6.สมุทรปราการ 321,390 คน 7.พังงา 317,353 คน 8.หนองคาย 231,243 คน 9.กระบี่ 217,526 คน 10.หนองคาย 148,683 คน
- นักท่องเที่ยวรายสัญชาติที่เดินทางมาเยือน 10 อันดับ ได้แก่ 1.มาเลเซีย 1,291,381 คน 2.อินเดีย 698,757 คน 3.สิงคโปร์ 381,940 คน 4.ลาว 345,709 คน 5.เวียดนาม 340,670 คน 6.เกาหลีใต้ 316,240 คน 7.สหราชอาณาจักร 291,753 คน 8.สหรัฐอเมริกา 283,211 คน 9.กัมพูชา 252,862 คน 10.เยอรมนี 235,596 คน