นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในปีนี้ตั้งเป้าหมายการส่งออกข้าวของไทยไว้ที่ 7.5 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจากก่อนหน้านี้ที่ตั้งเป้าหมายไว้ที่ 7 ล้านตัน แต่คาดว่าน่าจะส่งออกได้เกินเป้าหมาย เพราะตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-14 ธ.ค. 65 มีผู้ส่งออกขอใบอนุญาตส่งออกแล้ว 8.58 ล้านตัน
ขณะที่การส่งออกจริงที่ผ่านศุลกากรในช่วง 10 เดือน (ม.ค.-ต.ค.) ปีนี้ อยู่ที่ 6.2 ล้านตัน มูลค่า 109,206 ล้านบาท โดยเพิ่มขึ้นทั้งปริมาณและมูลค่า ที่ 33% และ 32.4% ตามลำดับจากช่วงเดียวกันของปี 64 ที่ส่งออกได้ 4.66 ล้านตัน มูลค่า 82,461 ล้านบาท
สำหรับสาเหตุที่ส่งออกเพิ่มขึ้นถึง 33% เป็นเพราะค่าเงินบาทที่อ่อนค่า ทำให้ความสามารถในการแข่งขันด้านราคาข้าวไทยเพิ่มขึ้น รวมทั้งอิรักเริ่มกลับมาซื้อเข้าไทยเพิ่มขึ้นมากถึง 500% หรือนำเข้าแล้ว 1.3 ล้านตัน จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่นำเข้าเพียง 200,000 ตัน ขณะที่ตลาดหลักอย่างสหรัฐฯ และฟิลิปปินส์ ยังเติบโตต่อเนื่อง
สำหรับราคาส่งออกข้าวไทยล่าสุด ณ วันที่ 14 ธ.ค. 65 ข้าวข้าว 5% ตันละ 465 เหรียญฯ และข้าวหอมมะลิ ตันละ 978 เหรียญฯ
"ปี 66 ปริมาณการส่งออกจะสูงกว่าปี 65 แน่นอน แต่จะได้เท่าไร ต้องขอประเมินร่วมกับผู้ส่งออกในเดือนม.ค. 66 ก่อน โดยมีปัจจัยหนุน คือ ค่าเงินบาทที่อ่อนค่าระหว่าง 35-36 บาท/เหรียญสหรัฐฯ ทำให้ราคาข้าวไทยแข่งขันกับคู่แข่งได้ดีขึ้น การปลดล็อกโควิดทั่วโลก ทำให้มีการซื้อข้าวมากขึ้น นอกจากนี้ อินโดนีเซีย และบังกลาเทศ ยังสนใจนำเข้าข้าวจากไทย เพราะสต็อกข้าวในประเทศไม่เพียงพอกับความต้องการบริโภค" นายรณรงค์ กล่าว
สำหรับแผนการส่งเสริมตลาดข้าวไทย ปี 66 กรมฯ จะเร่งผลักดันและจัดกิจกรรมส่งเสริมตลาด เพื่อรักษาและขยายตลาดในกลุ่มลูกค้าเดิม และแสวงหากลุ่มลูกค้าใหม่ โดยมีแผนจัดงานประชุมข้าวนานาชาติ ซึ่งเป็นการประชุมใหญ่สำหรับผู้ที่อยู่ในวงการค้าข้าวโลก และเจรจาธุรกิจ เข้าร่วมงานแสดงสินค้าอาหารนานาชาติ ทั้งที่จัดในไทย เยอรมนี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ญี่ปุ่น จีน และออสเตรเลีย เป็นต้น
นายรณรงค์ กล่าวถึงการส่งออกผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังว่า ล่าสุดส่งออกได้แล้ว 9.45 ล้านตัน มูลค่า 127,117 ล้านบาท ส่วนทั้งปี 65 คาดจะส่งออกได้ถึง 11 ล้านตัน มูลค่า 130,000 ล้านบาท เพราะมีความต้องการซื้อเข้ามาต่อเนื่อง จากตลาดหลักทั้งจีน ญี่ปุ่น อินโดนีเซีย และเกาหลีใต้ รวมถึงตลาดใหม่อย่างฟิลิปปินส์ ตุรกี นิวซีแลนด์ อินเดีย ฯลฯ
ทั้งนี้ เพื่อเป็นพลังงานทดแทนแอลกอฮอล์ อาหารสัตว์ ประกอบกับยังสามารถนำไปผลิตเป็นสินค้าที่มีนวัตกรรม เช่น บรรจุภัณฑ์ ซึ่งกรมฯ จะเร่งผลักดันการส่งออกพลาสติกชีวภาพจากมัน ผลิตภัณฑ์มันแปรรูป สินค้านวัตกรรมจากมันสำปะหลัง ให้ได้ไม่น้อยกว่า 1,000 ล้านบาท ในปี 67
สำหรับการค้าชายแดนและผ่านแดน กรมฯ จะเร่งรัดหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อผลักดันการเปิดด่านการค้าชายแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้านให้มากขึ้น จากที่ปิดไปเพราะป้องกันโควิด เพื่อสร้างรายได้ให้กับประเทศ โดยล่าสุดเปิดไปแล้ว 75 ด่าน จากทั้งหมด 97 ด่าน คาดว่า ปีนี้จะสร้างรายได้เข้าประเทศได้มากกว่า 1.3 ล้านล้านบาท