สหรัฐเผยยอดทำสัญญาซื้อบ้านที่รอปิดการขาย ร่วงลง 1.9% เหลือ 84.6

          สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ยอดทำสัญญาซื้อบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) ร่วงลงในเดือนก.พ. 2551 สู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่ ปี 2544 นับเป็นสัญญาณที่บ่งชี้ว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐอาจทรุดลงอีกก่อนที่จะฟื้นตัว 
          โดยดัชนียอดทำสัญญาซื้อบ้านที่รอปิดการขาย ร่วงลง 1.9% เหลือ 84.6 ในเดือนก.พ.จาก 86.2 ในเดือนม.ค. และน้อยกว่าเดือนก.พ.ปีที่แล้วถึง 21.4% 
          ดัชนีดังกล่าวเป็นปัจจัยวัดยอดขายบ้านมือสองในอนาคต โดย NAR เปิดเผยว่า ดัชนียอดทำสัญญาซื้อบ้านที่รอปิดการขาย ร่วงลงในทุกภูมิภาคของสหรัฐ ยกเว้นภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งมีการขยายตัว 3.2%          
          ก่อนหน้านี้ NAR กล่าวว่า ยอดขายบ้านซบเซาถึงขีดสุดตั้งแต่ช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมาแล้ว แต่จากข้อมูลล่าสุดแสดงให้เห็นว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์สามารถทรุดลงได้มากกว่านี้อีก
          "บ้านที่ยังขายไม่ได้จะมีมากขึ้น ส่วนราคาบ้านจะลดลงตลอดช่วงเวลาที่เหลืองของปีนี้และล่วงเข้าปีหน้า" โจเซฟ บรูซูลัส จาก IDEAglobal กล่าว  
          อย่างไรก็ตาม ลอวเรนซ์ ยูน หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จาก NAR เชื่อว่ายอดขายบ้านจะไม่ลดลงอย่างฮวบฮาบอีก         
          เมื่อเดือนที่ผ่านมา NAR รายงานว่า ยอดขายบ้านมือสองมีการขยายตัว 2.9% ในเดือนก.พ.เป็น 5.03 ล้านยูนิต หลังผู้ค้าบ้านตัดสินใจลดราคาบ้านลง เพื่อแก้ปัญหาจำนวนบ้านที่ทะยานเกือบแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์      
          ในขณะเดียวกัน NAR คาดการณ์ว่า อัตราดอกเบี้ยแบบคงที่ 30 ปี จะอยู่ที่ระดับ 5.8% ในไตรมาส 2 และ 3 ของปีนี้ จากนั้นจะเพิ่มขึ้นเป็น 6.3% ในปีหน้า
          ส่วนด้านเศรษฐกิจ NAR คาดว่าจี ดีพีในไตรมาสแรกของปีนี้จะร่วงลงแตะ -0.1% จากนั้นจะดีดตัวขึ้นแตะ 0.3% ในไตรมาส 2 และอยู่เหนือระดับ 2.0% ในช่วงครึ่งหลังของปี นับเป็นการคาดการณ์ที่สอดคล้องกับกระแสคาดการณ์จากหลายฝ่าย แม้นายเบน เบอร์นันเก ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เชื่อว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวช้ากว่าที่คาดไว้ก็ตาม     
         ด้านอัตราการว่างงานคาดว่า จะเพิ่มเป็น 5.7% ภายในสิ้นปีนี้ สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียล รายงาน