นายธนารัตน์ งามวลัยรัตน์ ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% ต่อปี จาก 1.00% เป็น 1.25% ต่อปีนั้น ธ.ก.ส. ในฐานะสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ ที่มีบทบาทในการดูแลภาคการเกษตร และการพัฒนาระบบเศรษฐกิจฐานรากของประเทศให้มีความเข้มแข็ง พร้อมสนับสนุนนโยบายในการแบ่งเบาภาระและสนับสนุนการออมเกษตรกร ดังนี้
ธ.ก.ส. ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์ A-Savings สำหรับลูกค้าทั่วไป 0.05%, ออมทรัพย์และออมทรัพย์พิเศษลูกค้านิติบุคคล ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ 0.05-0.10%
อัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำลูกค้าทุกประเภท 0.12-0.20% ประกอบด้วย เงินฝากออมทรัพย์ A-Savings ลูกค้าทั่วไป ปรับขึ้นจาก 0.45% เป็น 0.50%, เงินฝากออมทรัพย์ลูกค้านิติบุคคล ปรับขึ้นจาก 0.15% เป็น 0.25% ต่อปี ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ ปรับขึ้นจาก 0.25% เป็น 0.35% ต่อปี และเงินฝากออมทรัพย์พิเศษลูกค้านิติบุคคล ปรับขึ้นจาก 0.20% เป็น 0.30% ต่อปี และส่วนราชการ ปรับขึ้นจาก 0.30% เป็น 0.40% ต่อปี
สำหรับบัญชีเงินฝากประจำ ลูกค้าทั่วไปฝากประจำ 3 เดือน ปรับขึ้นจาก 0.50% เป็น 0.62% ต่อปี ฝากประจำ 6 เดือน จาก 0.50% เป็น 0.65% ต่อปี ฝากประจำ 12 เดือน และ 24 เดือน จาก 1.00% เป็น 1.15% และ 1.20% ต่อปี ตามลำดับ ส่วนฝากประจำ 36 เดือน 48 เดือน และ 60 เดือน ปรับขึ้นจาก 1.10% เป็น 1.30% ต่อปี
บัญชีเงินฝากประจำลูกค้านิติบุคคล ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ ฝากประจำ 3 เดือน ปรับขึ้นจาก 0.25% เป็น 0.37% ต่อปี ฝากประจำ 6 เดือน จาก 0.25% เป็น 0.40% ต่อปี ฝากประจำ 12 เดือน จาก 0.48% เป็น 0.63% ต่อปี ฝากประจำ 24 เดือน จาก 0.48% เป็น 0.68% ต่อปี ส่วนฝากประจำ 36 เดือน 48 เดือน และ 60 เดือน ปรับขึ้นจาก 0.70% เป็น 0.90% ต่อปี โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 19 ธ.ค. 65 เป็นต้นไป
ในด้านอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ ธ.ก.ส. ยังคงตรึงทั้งอัตราดอกเบี้ยลูกค้ารายย่อยชั้นดี (MRR) อัตราดอกเบี้ยลูกค้าสถาบันและนิติบุคคลชั้นดี (MLR) และอัตราดอกเบี้ยเงินเบิกเกินบัญชี (MOR) ไว้ให้นานที่สุด เพื่อแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยให้กับเกษตรกรลูกค้า สถาบันเกษตรกรและผู้ประกอบการด้านการเกษตร ให้มีกำลังในการฟื้นตัวจากผลกระทบ ทั้งทางด้านเศรษฐกิจและการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19