มิตรผลปรับโครงสร้างองค์กรจัดกลุ่มธุรกิจรองรับการเติบโตทั้งในและตปท.

          นายอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานกรรมการ กลุ่มมิตรผล เปิดเผยว่า บริษัทได้ปรับเปลี่ยนโครงสร้างการบริหารงานในทุกธุรกิจของกลุ่มมิตรผล เพื่อรองรับกับการเติบโตของกลุ่มมิตรผลที่ไม่ได้มีเฉพาะธุรกิจน้ำตาลเท่านั้น แต่ยังรวมถึงธุรกิจพลังงาน เช่น ไฟฟ้าชีวมวล, เอทานอล, ธุรกิจปาติเกิลบอร์ด, ธุรกิจคลังสินค้า และโลจิสติกส์ เป็นต้น ซึ่งการปรับเปลี่ยนโครงสร้างการบริหารก็เพื่อให้สามารถก้าวไปสู่การแข่งขันในเวทีโลกได้อย่างมั่นคง
          "โครงสร้างใหม่จะเป็นการแบ่งธุรกิจตามลักษณะการดำเนินงานอย่างชัดเจน ซึ่งจะทำให้การกำหนดนโยบายเฉพาะเรื่องมีความคล่องตัวมากขึ้น โดยกรรมการผู้จัดการใหญ่จะดูแลภาพรวมของทั้งกลุ่มมิตรผล และบริหารงานผ่านคณะกรรมการบริหาร"นายอิสระ กล่าว
          นายกฤษฎา มนเทียรวิเชียรฉาย กรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มมิตรผล กล่าวว่า แนวทางการพัฒนาของกลุ่มมิตรผลให้ความสำคัญกับธุรกิจน้ำตาล ที่เป็นธุรกิจหลักของกลุ่มเป็นอันดับแรก โดยปีนี้คาดว่าจะมีอ้อยเข้าหีบไม่ต่ำกว่า 13.3 ล้านตันอ้อย ซึ่งถือว่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยน่าจะมีปริมาณน้ำตาลไม่ต่ำกว่า 1.4 ล้านตัน รวมถึงการขยายธุรกิจเข้าไปในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งจะเป็นฐานการผลิตแห่งใหม่ด้วย
          "ธุรกิจน้ำตาลจะเป็นธุรกิจที่นำพาธุรกิจอื่นๆ เช่น ธุรกิจพลังงานทั้งไฟฟ้าและเอทานอล ให้ขยายตัวในแนวระนาบตามไปด้วย"นายกฤษฎา กล่าว
          สำหรับธุรกิจพลังงานในประเทศยังคงพัฒนาต่อเนื่อง โดยธุรกิจไฟฟ้าจะเข้าสู่โครงการพลังงานสะอาดในการขายคาร์บอนเครดิตอย่างเต็มตัว ขณะที่เอทานอลได้เริ่มเดินเครื่องโรงงานแห่งที่ 2 ที่กาฬสินธุ์อย่างเป็นทางการเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ทำให้มิตรผลสามารถผลิตเอทานอลออกสู่ตลาดได้ถึง 4 แสนลิตร/วัน
          ส่วนธุรกิจในประเทศจีนทั้งน้ำตาลและการผลิตเยื่อกระดาษได้รับการตอบรับจากตลาดอย่างดี โดยปัจจุบันกลุ่มมิตรผลมีโรงงานน้ำตาลในจีน 5 แห่ง สามารถขยายกำลังการผลิตเป็น 7.1 หมื่นตันอ้อย หีบอ้อยได้ปีละกว่า 10  ล้านตัน และผลิตน้ำตาลทรายบริสุทธิ์ได้ปีละ 1.1 ล้านตัน ขณะที่การผลิตกระดาษและเยื่อกระดาษนั้น สามารถผลิตกระดาษได้ 6 หมื่นตัน/ปี และผลิตเยื่อกระดาษได้ 5 หมื่นตัน/ปี