นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ประสบความสำเร็จในการร่วมมือกับกรมการข้าวดำเนินการตามยุทธศาสตร์ข้าวไทย ปี 2563-2567 เพื่อยกระดับการอำนวยความสะดวกการส่งออกและสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันข้าวไทยในตลาดโลก เพื่อก้าวเป็นผู้นำตลาดข้าวคุณภาพของโลก ผ่านการพัฒนาหน่วยบริการตรวจสอบมาตรฐานข้าวไทย
โดยกรมการค้าต่างประเทศได้ผลักดันการจัดตั้งหน่วยบริการตรวจสอบดีเอ็นเอข้าวไทย ณ ศูนย์วิจัยข้าวอุบลราชธานี จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญที่สนับสนุนให้การค้าข้าวของประเทศไทย โดยเฉพาะข้าวคุณภาพระดับโลกอย่างข้าวหอมมะลิไทยขยายตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องไปจนถึงปี 2567 ที่คาดว่าจะมีปริมาณการค้าข้าวในตลาดโลกขยายตัวทดแทนธัญพืชอื่นๆ ที่เกิดภาวะขาดแคลน ตลอดจนเป็นการสร้างทางเลือกให้ผู้ที่เกี่ยวข้องในวงการค้าข้าวตั้งแต่ระดับต้นน้ำถึงปลายน้ำ ไม่ว่าจะเป็น เกษตรกร โรงสี และผู้ประกอบการค้าข้าว สามารถเข้าถึงบริการตรวจสอบการปลอมปนพันธุ์ข้าวด้วยเทคโนโลยีดีเอ็นเอที่ทันสมัยและแม่นยำสูงได้อย่างสะดวก และรวดเร็ว ด้วยต้นทุนที่ต่ำลง กระตุ้นให้เกิดการรักษาคุณภาพมาตรฐานข้าวไทยทั้งระบบ ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญตอกย้ำความเชื่อมั่นในคุณภาพมาตรฐานข้าวไทยในตลาดโลก
สำหรับปี 2565 ภาพรวมการค้าข้าวไทยถือว่าสดใส โดยเฉพาะข้าวหอมมะลิไทยในช่วง 10 เดือนแรก (ม.ค.-ต.ค.65) มีการส่งออกแล้ว 1.28 ล้านตัน เพิ่มขึ้นกว่า 27% จากช่วงเดียวกันของปี 2564 และมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง เนื่องจากภาคเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าฟื้นตัวจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 รวมถึงการปลดล็อคนโยบายโควิดเป็นศูนย์ (Zero-COVID Policy) ของจีน อีกทั้งผู้ซื้อ ผู้นำเข้า และผู้บริโภคในต่างประเทศที่ยังคงเชื่อมั่นในคุณภาพมาตรฐานข้าวไทย ซึ่งการเปิดศูนย์วิจัยข้าวอุบลราชธานี เป็นหน่วยบริการตรวจสอบดีเอ็นเอข้างต้น จะช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีและเป็นแต้มต่อทางการตลาดของข้าวไทยในสถานการณ์การแข่งขันที่รุนแรงของตลาดข้าวในปัจจุบัน