พล.ท.หญิง พูนภิรมย์ ลิปตพัลลภ รมว.พลังงาน เปิดเผยว่า กระทรวงพลังงานออก 11 มาตรการประหยัดพลังงานเพิ่มเติม โดยเน้นจูงใจให้ประชาชนปรับเปลี่ยนเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เป็นอุปกรณ์ประหยัดพลังงาน
มาตรการดังกล่าว ประกอบด้วย โครงการสินเชื่อครัวเรือนสำหรับประชาชนรายย่อยอัตราดอกเบี้ย 0% เพื่อปรับเปลี่ยนอุปกรณ์ประหยัดพลังงาน วงเงินรวม 1,000 ล้านบาท วงเงินสินเชื่อไม่เกิน 10,000 บาทต่อราย ยกเว้นเครื่องปรับอากาศกู้ได้ไม่เกิน 20,000 บาท ระยะเวลาผ่อนชำระไม่เกิน 1 ปีผ่าน ธ.กรุงไทย ธ.กรุงศรีอยุธยา ธ.ออมสิน และ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.) ซึ่งคาดว่าประชาชนจะได้ประโยชน์ประมาณ 1 แสนครัวเรือน และเกิดผลการประหยัดเพลังงาน 1,000 ล้านบาทต่อปี
โครงการสินเชื่อพลังงานเพื่อปล่อยกู้ให้ภาคอุตสาหกรรมในการปรับปรุงอุปกรณ์ประหยัดพลังงาน โดยร่วมกับสถาบันการเงิน ซึ่งคาดว่าจะสามารถประหยัดการใช้พลังงานได้ 10% ของการใช้ทั้งหมดในภาคอุตสาหกรรม หรือคิดเป็นการประหยัดเงินได้กว่า 30,000-40,000 ล้านบาท โดยทั้งสองโครงการจะเริ่มได้ในเดือน พ.ค.-ก.ย.ปีหน้า
นอกจากนี้ ยังมีโครงการติดฉลากประหยัดไฟภาคบังคับ คาดว่าจะสามารถประหยัดค่าไฟฟ้าได้ 6,000 ล้านบาทต่อปี หรือคิดเป็นประหยัดพลังงานไฟฟ้าได้ 2,000 ล้านหน่วยต่อปี ซึ่งจะเห็นผลภายใน 5 ปี, โครงการ STAND BY POWER -1 WATT รักษ์โลก คาดว่าภายใน 10 ปีจะทำให้ประหยัดไฟฟ้าได้ 4,000 ล้านหน่วยต่อปีคิดเป็นประหยัดเงิน 12,000 ล้านบาทต่อไป, โครงการวัด มัสยิด ประหยัดไฟรวมใจสมานฉันท์, โครงการ 555, โครงการจัดตั้งหน่วยพลังงานเคลื่อนที่ และโครงการมาตรฐานการออกแบบอาคาร โดยคำนึงถึงการประหยัดพลังงาน, โครงการการกำกับอนุรักษ์พลังงานในโรงงาน, โครงการแอร์สะอาดเพิ่มเงินบาทให้ครัวเรือน และโครงการปรับแต่งเครื่องยนต์เพิ่มลดการใช้พลังงาน
ด้านนายพรชัย รุจิประภา ปลัดกระทรวงพลังงาน บอกว่า กระทรวงพลังงานเตรียมออกมาตรการจูงใจเพื่อให้โรงกลั่นน้ำมันเปลี่ยนการใช้ก๊าซมาใช้น้ำมันเตาแทนในช่วงนี้จนถึงเดือน ก.ค.51 เพื่อลดการใช้แอลพีจีในประเทศ แต่เนื่องจากน้ำมันเตามีราคาสูงกว่าจึงจำเป็นต้องมีการชดเชยราคาให้โรงกลั่นจำนวน 5 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งจะนำเงินจากออกทุนเพื่อการส่งเสริมและอนุรักษ์พลังงานเข้ามาช่วยเหลือ หากโรงกลั่นดำเนินการตามแผนก็จะลดการใช้แอลพีจีได้ประมาณ 10,000 ตันต่อเดือน โดยในขณะนี้น้ำมันเตามีราคา 70-80 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ขณะที่ราคาแอลพีจีอยู่ที่ 900 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน
--อินโฟเควสท์ โดย อตฦ/ธนวัฏ/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--