นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ 34.51 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจากเปิด ตลาดเมื่อเช้าที่ระดับ 34.57 บาท/ดอลลาร์ โดยระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 34.51 - 34.61 บาท/ดอลลาร์
เงินบาทปิดท้ายตลาดอยู่ที่ระดับแข็งค่าสุดของวัน โดยวันนี้มี Flow เข้ามาค่อนข้างใหญ่ จากนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิในตลาด พันธบัตรไทยประมาณ 13,000 ล้านบาท หนุนให้เงินบาทแข็งค่า ส่วนปัจจัยมองว่าเป็นเรื่องการเปิดเมืองของประเทศจีน ซึ่งในระยะกลาง ถึงระยะยาว น่าจะส่งผลดีต่อการฟื้นตัวของการท่องเที่ยว และเศรษฐกิจไทย
"ส่วนใหญ่วันสุดท้ายของปี ปริมาณธุรกรรมน่าจะบาง Flow ใหญ่ๆ เข้ามาก็อาจลากเงินบาทให้แข็งค่าได้ค่อนข้างเร็ว ด้าน สกุลเงินในภูมิภาควันนี้ก็แข็งค่า เนื่องจากธุรกรรมเบาบางเช่นกัน" นักบริหารเงิน กล่าว
นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทวันอังคารไว้ที่ 34.40 - 34.65 บาท/ดอลลาร์ สำหรับปัจจัยที่ต้อง ติดตามในสัปดาห์หน้า เช่น ดัชนีภาคการผลิตเดือนธ.ค. จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM)
THAI BATH SPOT RATE FIXING อยู่ที่ระดับ 34.5382 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 131.83 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 132.43 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0673 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.0661 ดอลลาร์/ยูโร
- ภาคธุรกิจของไทยเตรียมต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวจีน หลังจากรัฐบาลจีนประกาศเปิดประเทศทั้งขาเข้า-ขาออก โดยนักท่อง
- ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ ลงนามในร่างกฎหมายงบประมาณของรัฐบาลปี 2566 มูลค่า 1.66 ล้านล้าน
- อินเดีย เตรียมกลับมาใช้กฎเกณฑ์ที่กำหนดให้นักเดินทางจากบางประเทศในเอเชียแสดงผลตรวจโควิด-19 เป็นลบ ซึ่งรวม
- ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญสหรัฐสัปดาห์หน้า ได้แก่ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายเดือนธ.ค., การใช้
จ่ายด้านการก่อสร้างเดือนพ.ย., ตัวเลขการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) เดือนพ.ย., คณะกรรมการ
กำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) เปิดเผยรายงานการประชุม, จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์,ตัว
เลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนธ.ค.จาก ADP และยอดนำเข้า ยอดส่งออก และดุลการค้าเดือนพ.ย