น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามนโยบายรัฐบาลที่มุ่งส่งเสริม Soft Power เพื่อเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจและสร้างรายได้สู่ชุมชน ซึ่งในปี 2565 ที่ผ่านมา ได้เผยแพร่ชื่อเสียงไปทั่วโลก โดยเฉพาะในเรื่องของวัตถุดิบและอาหารที่เป็นทุนทางวัฒนธรรมและเอกลักษณ์ประจำถิ่น ผ่านการเลี้ยงรับรองผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ซึ่งในส่วนของกระทรวงพาณิชย์ นอกจากดำเนินการในเรื่องการประชาสัมพันธ์ เร่งขยายตลาดสินค้าไทยแล้ว ยังให้ความสำคัญการส่งเสริมการขึ้นทะเบียนสินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (Geographical Indication: GI) ซึ่งเป็นการคุ้มครองว่าสินค้าเกษตรชนิดนั้นเป็นสินค้าเฉพาะถิ่น พื้นที่อื่นไม่สามารถนำชื่อไปใช้ และเสมือนเครื่องยืนยันถึงคุณภาพสินค้าอีกด้วย จึงเป็นประโยชน์ต่อการทำการตลาดและเพิ่มมูลค่าอย่างมาก
ทั้งนี้ กรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ ได้เร่งรัดการขึ้นทะเบียน ส่งเสริมความรู้ความเข้าใจถึงประโยชน์ของการคุ้มครอง GI ให้แก่ผู้ประกอบการท้องถิ่น จัดทำระบบควบคุมคุณภาพเพื่อรักษามาตรฐานของสินค้า GI ที่ขึ้นทะเบียนแล้ว และการส่งเสริมการตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อเป็นการสร้างโอกาสและยกระดับสินค้าอัตลักษณ์ท้องถิ่นของชุมชนสู่สินค้าระดับพรีเมี่ยมต่อไป
โดยขณะนี้ มีสินค้าที่ได้ขึ้นทะเบียนสินค้า GI กับกรมทรัพย์สินทางปัญญาแล้วทั้งหมด 195 รายการ (ณ วันที่ 26 ธันวาคม 2565) แบ่งเป็น GI ไทย 177 รายการ GI ต่างประเทศ 18 รายการ และ 6 รายการล่าสุด คือ มะม่วงเบาสงขลา (จ.สงขลา) มะม่วงน้ำดอกไม้สีทองพิษณุโลก (จ.พิษณุโลก) ขมิ้นชันสุราษฎร์ธานี (จ.สุราษฎร์ธานี) กล้วยหอมทองพบพระ (จ.ตาก) ทุเรียนสะเด็ดน้ำยะลา (จ.ยะลา) และปลาเม็งสุราษฎร์ธานี (จ.สุราษฎร์ธานี)
น.ส.รัชดา กล่าวต่อว่า เพื่อเป็นการเผยแพร่สินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ไทยให้เป็นที่รู้จักทั่วโลก ทางกรมฯ ได้ร่วมกับ Michelin Guide ผลิตสื่อประชาสัมพันธ์ โดยการคัดสรรวัตถุดิบซึ่งเป็นสินค้า GI จากแหล่งผลิตที่มีคุณภาพ มีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นเฉพาะท้องถิ่นนั้นๆ มาสร้างสรรค์ เป็นเมนูอาหารจากเชฟระดับมิชลินสตาร์ โดยที่ผ่านมา จัดทำให้กับสินค้า GI แล้ว 4 สินค้าจาก 3 จังหวัด ได้แก่ ข้าวหอมมะลิดินภูเขาไฟบุรีรัมย์, หอมแดงศรีสะเกษ, กระเทียมศรีสะเกษ และเนื้อโคขุนโพนยางคำ จ.สกลนคร
สำหรับปี 2566 นับแต่เดือน ม.ค.นี้ไป จะต่อยอดผ่านกิจกรรม "สัมผัสสำรับ GI สุดประณีตด้วยเชฟมิชลิน" โดยการนำวัตถุดิบ GI ถึง 15 รายการ เช่น ปลากะพงสามน้ำ ทะเลสาบสงขลา, ปลาดุกร้า ทะเลน้อยพัทลุง, ข้าวเหนียวเขาวง กาฬสินธุ์, สับปะรดภูเก็ต, มะนาวเพชรบุรี และน้ำตาลโตนดเมืองเพชร เป็นต้น มารังสรรเป็นเมนูสุดพิเศษให้แก่ผู้มีชื่อเสียงในแวดวง GI และสื่อมวลชน เพื่อแสดงให้เห็นถึงศักยภาพสินค้า GI ในการก้าวไปสู่เวทีสากล
"รัฐบาลเชื่อมั่นในโอกาสเติบโตของสินค้าเกษตรผ่านการทำการตลาด เน้นทุนทางวัฒนธรรมอาหารไทย รวมถึงสร้างการรับรู้สินค้า GI ไทยว่าเป็นของแท้ และมีคุณภาพระดับพรีเมี่ยมให้เป็นที่รู้จักทั้งในและต่างประเทศ เพื่อสร้างแรงจูงใจให้กับผู้ประกอบอาชีพด้านอาหารหันมาสนใจวัตถุดิบจากสินค้า GI ท้องถิ่น นำไปสร้างสรรค์เมนูอาหารที่มีคุณภาพ เป็นการใช้ Soft Power เพื่อสร้างรายได้แก่ชาวบ้านและความเข้มแข็งของเศรษฐกิจท้องถิ่น" น.ส.รัชดา กล่าว