สอท.เชิญชวน SME ขอสินเชื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตจากธปท.-สถาบันการเงิน

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday April 9, 2008 16:28 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          นายสันติ วิลาสศักดานนท์ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.)ในฐานะประธานคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน(กกร.)เปิดเผยว่า ขณะนี้ผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม(SMEs)สามารถเริ่มมาขอสินเชื่อในโครงการให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ SMEs เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตได้แล้ว หลังจากที่ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) และสถาบันการเงินได้อนุมัติวงเงินสินเชื่อแห่งละ 20,000 ล้านบาท รวมเป็น 40,000 ล้านบาท แก่โครงการดังกล่าว
สำหรับเงื่อนไขที่ SMEs จะขอรับสินเชื่อจากโครงการดังกล่าวได้ จะต้องเป็นบริษัทที่มีการจ้างงานไม่เกิน 200 คน มีสินทรัพย์รวมไม่เกิน 200 ล้านบาท โดยสามารถขอรับวงเงินสินเชื่อได้ไม่เกินบริษัทละ 50 ล้านบาท คิดอัตราดอกเบี้ยในอัตรา MLR-2.25% ต่อปีจนถึงสิ้นเดือนก.ย.54 แต่หากผู้ประกอบการรายใดต้องการวงเงินสินเชื่อมากกว่านี้ ธปท.จะพิจารณาให้เป็นกรณี
โครงการดังกล่าว มีขึ้นเพื่อส่งเสริมให้ผู้ประกอบการ SMEs ได้ปรับปรุงประสิทธิภาพและเทคโนโลยีการผลิต ตลอดจนพัฒนากระบวนการผลิตสินค้าให้มีคุณภาพมากขึ้น ซึ่งจะเป็นโครงการที่นำมาใช้แทนกองทุนเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากเงินบาทแข็งค่าจำนวน 5,000 ล้านบาทที่จะถูกกยกเลิกไปโดยปริยาย
ประธาน กกร.ยังแสดงความเห็นต่อการที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) คงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 3.25% ว่า เป็นไปตามที่ภาคเอกชนได้คาดการณ์ไว้ แต่ในอนาคตหากธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด)ลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก 0.75-1% กนง.ก็ควรจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงตาม เพื่อไม่ให้ส่วนต่างระหว่างอัตราดอกเบี้ยของไทยกับสหรัฐห่างกันเกินไป อันจะส่งผลให้มีปริมาณเงินไหลเข้าประเทศมากขึ้น ส่งผลให้เงินบาทแข็งค่าขึ้นไปอีก
อย่างไรก็ดี จากการสอบถามไปยังธปท.ในขณะนี้พบว่ามีปริมาณเงินยังไหลเข้า-ออกตามปกติ ไม่พบว่ามีการเก็งกำไรแต่อย่างใดเพราะขณะนี้สหรัฐฯ ยังมีความต้องการเม็ดเงินเพื่อใช้สำหรับกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศอยู่มาก
นายสันติ ยังแสดงความเป็นห่วงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่เริ่มปรับลดลง ทำให้การฝากเงินของรายย่อยลดลงตามไปด้วย ดังนั้น ธปท.ควรจะเข้ามาดูแลในส่วนนี้ด้วยเช่นกัน

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ