ภาวะการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (9 เม.ย.) ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อสกุลเงินยูโรและเงินปอนด์ก่อนที่ธนาคารกลางอังกฤษและธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) จะประชุมเพื่อตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ยในวันพฤหัสบดี นอกจากนี้ ดอลลาร์ได้รับแรงกดดันจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ที่เตือนว่า เศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ระยะถดถอยแล้ว
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ค่าเงินยูโรแข็งแกร่งขึ้นแตะระดับ 1.5820 ดอลลาร์/ยูโร จากระดับของวันอังคารที่ 1.5700 ดอลลาร์/ยูโร ขณะที่ค่าเงินปอนด์แข็งขึ้นแตะระดับ 1.9748 ดอลลาร์/ปอนด์ จากระดับ 1.9684 ดอลลาร์/ปอนด์
เมื่อเทียบกับสกุลเงินเยนและฟรังซ์สวิส ดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลงแตะระดับ 101.75 เยน/ดอลลาร์ จากระดับ 102.60 เยน/ดอลลาร์ และอ่อนตัวลงแตะระดับ 1.0017 ฟรังซ์/ดอลลาร์ จากระดับ 1.0145 ฟรังซ์/ดอลลาร์
ส่วนค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์อ่อนตัวลงแตะระดับ 0.7968 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ จากระดับ 0.7989 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนตัวลงแตะระดับ 0.9285 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย จากระดับ 0.9308 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย
ทั้งนี้ ค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ปรับฐานลงแม้ธนาคารกลางนิวซีแลนด์ระบุว่า ธนาคารกลางจำเป็นต้องรักษาอัตราดอกเบี้ยให้อยู่ในระดับสูงต่อไปเพื่อควบคุมเงินเฟ้อที่สูงขึ้น โดยอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางนิวซีแลนด์อยู่ที่ระดับ 8.25% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดหนึ่งในกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว ขณะที่อัตราเงินเฟ้อรายปีในขณะนี้อยู่ที่ 3.2% ซึ่งอยู่เหนือกรอบเป้าหมายของธนาคารกลางที่ระดับ 1-3%
ดอลลาร์สหรัฐได้รับแรงกดดันอย่างหนักหลังจากไอเอ็มเอฟระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มขยายตัวเพียง 0.5% เท่านั้นในปี 2551 ซึ่งถือเป็นอัตราการขยายตัวที่ย่ำแย่ที่สุดในรอบ 17 ปี พร้อมกับเตือนว่าเศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ระยะถดถอยแล้วและจะฉุดรั้งเศรษฐกิจโลกให้ทรุดตัวลงด้วย
นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า อีซีบีจะตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้เท่าเดิมที่ 4% ในการประชุมวันพฤหัสบดีนี้ และคาดว่าธนาคารกลางอังกฤษจะลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5% ในการประชุมวันพฤหัสบดีเช่นกัน
ข้อมูลเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ของอังกฤษทำให้เกิดกระแสคาดการณ์ว่าธนาคารกลางอังกฤษจะลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้ขยายตัวต่อไปได้ โดยล่าสุด เนชั่นไวด์ ซึ่งเป็นองค์กรวิจัยเอกชนของอังกฤษเปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของอังกฤษร่วงลงแตะระดับ 77 จุด ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ที่มีการสำรวจเป็นครั้งแรกในเดือนพ.ค.2547 เนื่องราคาบ้านที่ลดลง และความผันผวนที่เกิดขึ้นในตลาดเงิน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--