กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ได้ปรับลดการคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกปี 2551 ลง เนื่องจากปัญหาในตลาดที่อยู่อาศัยและสินเชื่อในสหรัฐที่ยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปัจจัยเหล่านี้มีแนวโน้มว่าจะดึงเศรษฐกิจสหรัฐให้เข้าสู่ภาวะถดถอย
ท่ามกลางสถานการณ์ดังกล่าว ไอเอ็มเอฟมองว่า การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปี 2551 และ 2552 จะชะลอตัวลงสู่ระดับ 3% หรือต่ำกว่านั้น ซึ่งการขยายตัวในระดับดังกล่าวจะเทียบเท่ากับภาวะถดถอยทั่วโลกนั่นเอง
สำนักข่าวธอมสันไฟแนนเชียลรายงานว่า รายงานแนวโน้มเศรษฐกิจโลกของไอเอ็มเอฟชี้ว่า การขยายตัวของเศรษฐกิจทั่วโลกจะอยู่ที่ระดับ 3.7% ไม่ใช่ระดับคาดการณ์ไว้เมื่อเดือนม.ค.ที่ 4.2% โดยไอเอ็มเอฟยังได้ลดคาดการณ์การขยายตัวปี 2552 ลงเหลือ 3.8% จากระดับคาดการณ์เมื่อเดือนม.ค.ที่ 4.4%
ไซมอน จอห์นสัน หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของไอเอ็มเอฟ กล่าวว่า สาเหตุหลักที่ทำให้ไอเอ็มเอฟลดคาดการณ์มาจาก สถานการณ์ความผันผวนในสหรัฐ ซึ่งตอนนี้ดูเหมือนว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะเข้าสู่ภาวะถดถอย และภาวะเช่นนี้จะส่งผลกระทบต่อประเทศสมาชิกส่วนใหญ่ของไอเอ็มเอฟ
ทั้งนี้ รายงานของไอเอ็มเอฟได้ระบุถึงปัจจัยลบหลายประการที่เศรษฐกิจโลกกำลังเผชิญอยู่ ได้แก่ แรงกดดันของสินเชื่อที่มีต่อการขายสินทรัพย์ ซึ่งทำให้มูลทางการตลาดต่ำลง และทำให้ตลาดสินเชื่อตึงตัวมากขึ้น
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา/รัตนา โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--