รัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อเครื่องจักรภาคเอกชนร่วงลง 12.7% เหลือ 1.06 ล้านล้านเยน (1.04 หมื่นล้านดอลลาร์) ในเดือนก.พ.เมื่อเทียบกับเดือนม.ค. เนื่องจากยอดสั่งซื้อเหล็กกล้า, เยื่อกระดาษและกระดาษ รวมถึงผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมมีการหดตัวลง
ตัวเลขดังกล่าวนับเป็นการหดตัวลงครั้งแรกในรอบ 2 เดือน หลังจากที่มีการขยายตัว 19.6% ในเดือนม.ค. แต่ก็ยังน้อยกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ว่ายอดสั่งซื้อเครื่องจักรภาคเอกชนร่วงลง 13.9% จากผลสำรวจของหนังสือพิมพ์นิกเกอิ
ยอดสั่งซื้อเครื่องจักรภาคเอกชนซึ่งไม่นับรวมยอดสั่งซื้ออุปกรณ์อิเล็กทริคและอุปกรณ์เกี่ยวกับเรือ ถือเป็นปัจจัยหลักที่สามารถบ่งบอกถึงจำนวนเงินที่แต่ละองค์กรใช้ในการลงทุนได้
ทั้งนี้ ยอดสั่งซื้อเครื่องจักรจากภาคการผลิตร่วงลง 13.2% เมื่อเทียบกับเดือนม.ค. และลดลง 1.5% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว
ส่วนยอดสั่งซื้อเครื่องจักรจากนอกภาคการผลิตร่วง 13.3% เมื่อเทียบกับเดือนม.ค. แต่มีการขยายตัว 5.2% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว
ยอดสั่งซื้อจากต่างชาติร่วง 14.5% เมื่อเทียบเดือนม.ค. แต่เพิ่ม 5.9% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว
ยอดสั่งซื้อจากภาครัฐทะยาน 23.1% เมื่อเทียบเดือนม.ค. แต่ลดลง 10.1% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่ายอดสั่งซื้อเครื่องจักรจะมีการขยายตัว 3.5% ในไตรมาสแรกของปีนี้ เมื่อเทียบกับไตรมาส 4 ของปีที่แล้ว โดยยอดสั่งซื้อจากภาคการผลิตจะมีการขยายตัว 1.8% ในขณะที่ยอดสั่งซื้อจากนอกภาคการผลิตจะมีการขยายตัว 3.1% สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียล รายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปรียพรรณ มีสุข/รัตนา โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--