นายอนุสรณ์ ธรรมใจ นักเศรษฐศาสตร์ และ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนานโยบายสาธารณะ สำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า กระแสเม็ดเงินไหลเข้าในช่วงนี้ทั้งจากภาคการท่องเที่ยว ภาคการลงทุนและตลาดการเงินทำให้เงินบาทแข็งค่าอย่างรวดเร็วและมีความเป็นไปได้ที่ค่าเงินบาทอาจทดสอบระดับ 32.50 บาทต่อดอลลาร์ในไตรมาสแรกของปีนี้
อย่างไรก็ตาม หุ้นกู้ของภาคเอกชนจะครบอายุจำนวนสูงถึง 1.64 แสนล้านบาทในไตรมาสแรก โดยทั้งปี 2566 มีหุ้นกู้ครบกำหนดชำระ 6.51 แสนล้านบาท
หากอัตราดอกเบี้ยในประเทศปรับตัวขึ้นมากเกินไปอาจส่งผลกระทบต่อต้นทุนทางการเงินได้ หรือ ทำให้บริษัทบางแห่งประสบปัญหาสภาพคล่องทางการเงินหรือความสามารถในการยืดการชำระหนี้และอาจเกิดสถานการณ์ผิดนัดชำระหนี้ได้ แต่สถานการณ์ไม่น่าจะรุนแรงมากนัก เพราะภาพรวมทางเศรษฐกิจยังมีการทยอยฟื้นตัวต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม หากสถานการณ์การผิดนัดชำระหนี้เกิดขึ้นกับบริษัทจดทะเบียน จะส่งผลให้ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ปรับฐานลดลงครั้งใหญ่ได้ โดยกลุ่มบริษัทในตลาด MAI มีความเสี่ยงมากที่สุดหากดอกเบี้ยเข้าสู่ภาวะขาขึ้นเต็มที่ช่วงไตรมาสสามปีนี้