นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข พร้อมด้วยนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม และนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมผู้บริหารที่เกี่ยวข้องของทั้ง 3 กระทรวง ร่วมต้อนรับนักท่องเที่ยวจากสาธารณรัฐประชาชนจีนเดินทางมายังประเทศไทย ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ภายหลังจีน ประกาศเปิดประเทศ ตั้งแต่วันที่ 8 มกราคม 2566 ซึ่งเป็นผู้โดยสารที่เดินทางมาจากเมืองเซี่ยเหมิน โดยสายการบิน Xiamen Airlines เที่ยวบิน MF833 ถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเวลา 12.19 น. มีผู้โดยสาร จำนวน 269 คน
โดยในวันนี้ (9 มกราคม 2566) มีเที่ยวบินขาเข้าจากสาธารณรัฐประชาชนจีน จำนวน 15 เที่ยวบิน จำนวนผู้โดยสารทั้งสิ้น 3,465 คน
ทั้งนี้ ข้อมูลจำนวนผู้โดยสารของ บมจ. ท่าอากาศยานไทย (AOT) หรือ ทอท. คาดการณ์ว่าตลอดปี 2566 จะมีนักท่องเที่ยวจากสาธารณรัฐประชาชนจีนเดินทางผ่านท่าอากาศยานของทอท. ประมาณ 7 - 10 ล้านคน จากเดิมที่ก่อนการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 มีกว่า 20.5 ล้านคน
ซึ่งกระทรวงคมนาคมมีความพร้อมรองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติในทุกท่าอากาศยาน โดยมีขีดความสามารถรองรับผู้โดยสารได้อย่างเพียงพอ โดยได้กำชับให้ทุกหน่วยงานในสังกัดอำนวยความสะดวกและการให้บริการนักท่องเที่ยวและผู้เดินทางในทุกมิติ ตั้งแต่นักท่องเที่ยวเดินทางมาถึงประเทศไทย โดยได้เน้นย้ำให้เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานเพื่อให้สอดคล้องกับจำนวนเที่ยวบินและผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้น โดยคำนึงถึงความสะดวก รวดเร็วและความปลอดภัยของผู้โดยสารเป็นสำคัญ
สำหรับปัญหากระเป๋าสัมภาระล่าช้า และการให้บริการรถสาธารณะที่พบก่อนหน้านี้ กระทรวงคมนาคมได้เร่งแก้ปัญหาอย่างเร่งด่วนปัจจุบันพบว่า ค่าเฉลี่ยเวลาในการลำเลียงกระเป๋าสัมภาระจากเครื่องบินจนถึงผู้โดยสาร First bag ใช้เวลาเฉลี่ย 27 นาที และ Last bag ใช้เวลาเฉลี่ย 44 นาที ซึ่งมีความรวดเร็วขึ้น
ส่วนการให้บริการระบบขนส่งสาธารณะ ปัจจุบันได้เพิ่มจำนวนการให้บริการให้เพียงพอกับความต้องการของผู้ใช้บริการ และจัดระเบียบ ขยายพื้นที่ เพื่อลดความแออัดของผู้มาใช้บริการ ซึ่งผู้โดยสารใช้เวลารอคิวใช้บริการประมาณ 10 นาทีต่อคน ทั้งนี้กระทรวงคมนาคมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังคงเดินหน้าเร่งแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยมีแผนระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยั่งยืน เพื่อให้ผู้โดยสารได้รับความสะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น
การเดินทางเข้าประเทศไทยของนักท่องเที่ยวจากสาธารณรัฐประชาชนจีน รวมไปถึงประเทศอื่น ๆ ที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องถือเป็นสัญญาณที่ดีต่อภาคการท่องเที่ยวของประเทศไทย และการสร้างรายได้ สร้างอาชีพให้กับประชาชน อันส่งผลต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้ฟื้นตัวภายหลังจากสถานการณ์โควิด-19