สหรัฐโต้ IMF ฟันธงเศรษฐกิจถดถอย ชี้ประเมินต่ำเกินจริง,มีมุมมองเป็นลบมากไป

ข่าวต่างประเทศ Thursday April 10, 2008 11:01 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          นายเดวิด แมคคอร์มิค รมช.คลังฝ่ายกิจการระหว่างประเทศของสหรัฐกล่าวว่า คณะทำงานของประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิ้ลยู บุช ไม่ได้มีมุมมองเหมือนกับกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ที่คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะขยายตัวเพียง 0.5% และเตือนว่าเศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ระยะถดถอยแล้ว เนื่องจากวิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้นในตลาดสินเชื่อและตลาดปล่อยกู้จำนอง ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกด้วย โดยนายแมคคอร์มิคกล่าวว่า การคาดการณ์ดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่า IMF มีมุมมองที่เป็นลบมากเกินไปและประเมินเศรษฐกิจสหรัฐต่ำกว่าความเป็นจริง
นายแมคคอร์มิคออกแถลงการณ์ที่กรุงวอชิงตันว่า "สหรัฐทราบมาโดยตลอดว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ภายในประเทศตกต่ำลง ตลาดการเงินก็เผชิญกับปัญหา ราคาน้ำมันและสินค้าโภคภัณฑ์ที่พุ่งสูงขึ้นส่งผลให้แรงกดดันด้านเงินเฟ้อสูงขึ้น แต่การที่ IMF ออกมาคาดการณ์เช่นนี้ เป็นการคาดการณ์ที่รุนแรงเกินไปและต่ำกว่าความเป็นจริง"
"รัฐบาลสหรัฐยังคงมีมุมมองที่เป็นบวกว่า ในระยะยาวนั้นเศรษฐกิจสหรัฐและเศรษฐกิจโลกจะฟื้นตัวขึ้นแน่นอน เราเชื่อว่ารายงาน "World Economic Outlook" ฉบับล่าสุดของ IMF สะท้อนมุมมองที่เป็นลบมากเกินไปและต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้" เขากล่าว
นายแมคคอร์มิคไม่ได้ระบุว่า รัฐบาลสหรัฐมองว่าเศรษฐกิจจะถดถอยหรือไม่ในปีนี้ แต่กล่าวเพียงว่า "ผมไม่คิดว่าเราจะสามารถระบุได้ในขณะนี้ เราเพียงแต่ประเมินได้ว่าเศรษฐกิจจะชะลอตัวลงรุนแรงในระดับใด"
"ผมบอกกับนายเฮนรี พอลสัน รมว.คลังสหรัฐว่า ผมมั่นใจว่าเศรษฐกิจของเราจะฟื้นตัวขึ้นแน่นอน และในการประชุม G7 วันศุกร์นี้ ผมมั่นใจว่าท่านรมว.คลังจะบอกกับที่ประชุมว่า ตลาดที่อยู่อาศัยของสหรัฐปรับฐานลง ขณะที่ตลาดการเงินตกอยู่ในภาวะผันผวน และราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นกำลังฉุดเศรษฐกิจสหรัฐให้ชะลอตัวลง" เขากลาว
IMF กล่าวในรายงาน "World Economic Outlook" ว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มขยายตัวเพียง 0.5% เท่านั้นในปี 2551 ซึ่งถือเป็นอัตราการขยายตัวที่ย่ำแย่ที่สุดในรอบ 17 ปี เนื่องจากภาวะตกต่ำในตลาดอสังหาริมทรัพย์และตลาดสินเชื่อ ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวส่งผลกระทบต่อผู้บริโภค นักลงทุน และผู้ประกอบทั่วโลกในขอบข่ายที่รุนแรงกว่าที่คาดการณ์ไว้
"ปัญหาด้านการเงินในสหรัฐที่เกิดขึ้นในเดือนส.ค.2550 ได้ลุกลามออกไปอย่างรวดเร็วและรุนแรงเกินกว่าจะคาดคะเนได้ ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายต่อตลาดโลกอย่างมาก วิกฤตการณ์ทางการเงินในสหรัฐครั้งนี้รุนแรงที่สุดนับตั้งแต่เกิดภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ (Great Depression) ในช่วงค.ศ. 1930"
"เราคาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะขยายตัวเพียง 0.5% เท่านั้นในปีนี้ ก่อนที่จะกระเตื้องขึ้นแตะระดับ 0.6% ในปีหน้า เศรษฐกิจสหรัฐในปีนี้เข้าสู่ระยะถดถอยแล้วเนื่องจากตลาดการเงินและตลาดอสังหาริมทรัพย์ตกต่ำลงอย่างมาก" IMF ระบุ สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงาน

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ