นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกสมาคมผู้ส่งข้าวออกต่างประเทศ เชื่อว่า หากภายในปีนี้สามารถรักษาระดับการส่งออกข้าวไม่ให้มากเกินไปกว่า 9 ล้านตันก็จะไม่เกิดปัญหาขาดแคลนข้าวเพื่อการบริโภคภายในประเทศอย่างแน่นอน
แต่จากสถานการณ์ในขณะนี้เห็นว่าปริมาณการส่งออกข้าวตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาเฉลี่ยส่งออกไปแล้วประมาณ 1 ล้านตัน/เดือน ดังนั้นจึงต้องการให้ภาครัฐเตรียมหามาตรการเพื่อเข้ามาดูแลในเรื่องดังกล่าว เพราะหากปล่อยให้ช่วงครึ่งปีหลังมีการส่งออกข้าวมากเกินไปจะส่งผลกระทบต่อการบริโภคในประเทศได้ พร้อมเห็นว่าในปีนี้ไม่ควรจะส่งออกข้าวมากเกินกว่า 9 ล้านตัน โดยที่เหลือควรเก็บไว้ในประเทศเพื่อสำรองความมั่งคงทางด้านอาหาร
"ถ้าเราส่งออกไม่เกิน 9 ล้านตัน ไม่มีปัญหา(ขาดแคลนข้าวในประเทศ) แต่ถ้าไปถึง 11-12 ล้านตัน มีปัญหาแน่...หากปล่อยให้ส่งออก 1 ล้านตัน/เดือน อาจไม่มีข้าวเหลือพอกินในประเทศ รัฐบาลต้องติดตามการส่งออกอย่างใกล้ชิด หากครึ่งปีหลังส่งออกมากไป กระทรวงพาณิชย์ต้องมีมาตรการออกมาดูแล" นายชูเกียรติ ระบุ
นายกสมาคมผู้ส่งข้าวออกต่างประเทศ กล่าวว่า สิ่งที่น่ากังวลนอกเหนือไปจากเรื่องปริมาณข้าวในประเทศขาดแคลน คือการเก็งกำไรราคาข้าวที่ส่งผลให้ระดับราคาข้าวในตลาดปรับตัวสูงขึ้นเกินความเป็นจริงถึง 20% ส่วนแนวโน้มราคาข้าวจะขึ้นต่ออีกหรือไม่นั้นจะต้องจับตาดูการประมูลข้าวของฟิลิปปินส์ในวันที่ 17 เม.ย.นี้ ซึ่งเป็นการประมูลข้าวขาว 25% จำนวน 5 แสนตันว่าประเทศที่เข้าร่วมประมูลจะเสนอราคาข้าวให้สูงหรือไม่
"คราวนี้ไทยและเวียดนามก็ร่วมประมูลด้วย ต้องดูว่าเวียดนามเสนอสูงไหม หากเสนอไปถึง 900 เหรียญ/ตัน แล้วฟิลิปปินส์ยอมซื้อ ก็เท่ากับบ่งบอกว่าราคาข้าวจะขึ้นต่อไปอีก เพราะตลาดจะให้น้ำหนักของราคาข้าวไทยมากกว่าข้าวเวียดนาม 10-15 เหรียญ/ตัน" นายชูเกียรติ กล่าว
--อินโฟเควสท์ โดย กษมาพร กิตติสัมพันธ์/ธนวัฏ โทร.0-2253-5050 ต่อ 325 อีเมล์: tanawat@infoquest.co.th--