นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่า ยอดขาดดุลการค้าของสหรัฐอาจหดตัวลงเหลือ 5.75 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนก.พ. จาก 5.82 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนม.ค. เนื่องจากเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงช่วยหนุนการส่งออกให้มีการขยายตัวมากขึ้น
เงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงช่วยกระตุ้นยอดส่งออกได้เป็นอย่างดี เนื่องจากสินค้าที่ผลิตในสหรัฐจะมีราคาถูกลงในสายตาของผู้บริโภคต่างประเทศ ในขณะเดียวกัน การใช้จ่ายผู้บริโภคและภาคธุรกิจที่ชะลอตัวลงส่งผลให้การนำเข้าสินค้าจากต่างชาติลดลง โดยส่วนต่างระหว่างยอดนำเข้าและส่งออกที่ลดลงช่วยสกัดไม่ให้เศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอยนานและรุนแรงไปมากกว่านี้
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขขาดดุลอย่างเป็นทางการ ณ เวลา 8.30 น.ตามเวลาในสหรัฐ โดยนักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่ายอดขาดดุลจะอยู่ที่ระดับ 5.5 - 6.1 หมื่นล้านดอลลาร์
โพลล์ซึ่งจัดทำโดยสำนักข่าวบลูมเบิร์ก ระหว่างวันที่ 2-8 เม.ย. แสดงให้เห็นว่า นักเศรษฐศาสตร์เชื่อว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะไม่มีการขยายตัวเลยในช่วง 6 เดือนแรกของของปีนี้ เนื่องจากการใช้จ่ายของผู้บริโภคยังซบเซา และส่วนใหญ่คิดว่าเศรษฐกิจสหรัฐกำลังเข้าสู่ภาวะถดถอยหรือเข้าสู่ภาวะถดถอยแล้ว
ในขณะเดียวกัน กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ก็ระบุในรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจโลกว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะเข้าสู่ภาวะ "ถดถอยเล็กน้อย" ในปีนี้ อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจเอเชียยังคงขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง และเศรษฐกิจสหรัฐน่าจะส่งผลกระทบต่อเอเชียน้อยกว่าวิกฤติเศรษฐกิจครั้งก่อนหน้านี้ ซึ่งหมายความว่าภาคการส่งออกของสหรัฐยังขยายตัวต่อไปได้ สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปรียพรรณ มีสุข/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--