นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ รมช.คลัง เปิดเผยว่า ได้เร่งรัดให้ธนาคารอาคารสงเคราะห์(ธอส.) ออกพันธบัตรรัฐบาล โดยให้กระทรวงการคลังค้ำประกัน เพื่อระดมเงินใช้ปล่อยสินเชื่อในโครงการสินเชื่อ ธอส.เพื่อบ้านหลังแรก ตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล
ซึ่งภายหลังที่คณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบการออกมาตรการเงินทุนเพื่อกระตุ้นประชาชนและเศรษฐกิจฐานรากเมื่อวันที่ 1 เม.ย.แล้วนั้น เห็นว่าควรจะเร่งดำเนินโครงการให้มีผลบังคับใช้โดยเร็ว จึงคาดว่าภายในเดือน พ.ค.นี้ ประชาชนที่เตรียมซื้อบ้านหลังแรก จะสามารถยื่นขอสินเชื่อในโครงการดดังกล่าว ตามเงื่อนไขที่ต้องเป็นผู้มีรายได้ไม่เกิน 15,000 บาท/เดือน ขอสินเชื่อได้รายละไม่เกิน 6 แสนบาท
"ยอมรับว่าวงเงินให้กู้ที่รายละ 6 แสนบาท เป็นเงินไม่มากพอที่จะซื้อบ้านได้ แต่ได้หารือกับ ธอส.แล้ว เขารับได้แค่นี้ เพราะมีอัตราดอกเบี้ยต่ำ ดังนั้นหากประชาชนต้องการกู้เงินซื้อบ้านของตัวเอง ก็ต้องใช้เงินออมของตัวเองบางส่วนมาผ่อนบ้านด้วย ซึ่งก็เป็นส่วนหนึ่งของการนำเงินออมมาใช้กระตุ้นเศรษฐกิจ" รมช.คลัง กล่าว
สำหรับมาตรการภาษีภาคอสังหาริมทรัพย์สำหรับการซื้อขายบ้านมือ 2 นั้น รมช.คลัง กล่าวว่า ยังอยู่ระหว่างร่างกฎหมายเพื่อให้มีผลบังคับใช้คาดว่าจะแล้วเสร็จในอีก 1-2 สัปดาห์ เพื่อให้การโอนหรือจำนองบ้านมือ 2 ได้รับการลดหย่อนภาษี โดยภาษีธุรกิจเฉพาะจาก 3% เหลือ 0.1% และค่าธรรมเนียมการโอนและจดจำนองเหลือ 0.01%
นายประดิษฐ์ ยังกล่าวถึงการเพิ่มทุนของสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐหลายแห่งว่า อยู่ระหว่างการให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.)รวบรวมข้อมูลปัญหาและอุปสรรคเพื่อนำไปหารือกับ นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง พิจารณาหลังจากช่วงวันหยุดสงกรานต์นี้ เพื่อมอบนโยบายแนวทางการเพิ่มทุน ส่วนเม็ดเงินเพิ่มทุนจะมากน้อยอย่างไรนั้นขึ้นอยู่กับสถานะและการกำหนดแผนการทำงานของสถาบันการเงินแต่ละแห่ง
--อินโฟเควสท์ โดย คลฦ/กษมาพร/รัชดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--