นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ ตอบกระทู้สดถึงแนวทางป้องกันปัญหาราคาปาล์มน้ำมันตกต่ำว่า เรื่องนี้ตนเองไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้สั่งการให้ผู้เกี่ยวข้องเร่งลงไปแก้ปัญหาในพื้นที่ทันที ที่ผ่านมาช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่จะมีปริมาณปาล์มน้อยและโรงงานสกัดปิดซ่อมบำรุง แต่ปีนี้มีปริมาณออกสู่ตลาดมาก ซึ่งได้สั่งการให้โรงสกัดหยุดซ่อมเครื่องจักร ยกเว้นที่กำลังซ่อมอยู่ ขอให้ซ่อมให้เร็วที่สุด หากยังไม่ซ่อม ให้หยุดซ่อม และให้รับซื้อผลปาล์มจากเกษตรกรตามปกติไปก่อน และให้แจ้งแผนการซ่อมให้ผู้ว่าราชการจังหวัด และกรมการค้าภายในทราบ เพื่อจะได้วางแผนการซ่อมในภาพรวม โดยจะไม่อนุญาตให้หยุดซ่อมพร้อมๆ กัน เพราะจะส่งผลกระทบต่อการรับซื้อผลปาล์มจากเกษตรกร และห้ามกดราคารับซื้อผลปาล์มจากเกษตรกร
"ตอนนี้สถานการณ์กลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว โรงสกัด 131 แห่ง และลานเท 3,117 แห่ง กลับมาดำเนินการตามปกติแล้ว ทำให้ราคาผลปาล์มอยู่ที่กิโลกรัมละ 5 บาทกว่าแล้ว" นายจุรินทร์ กล่าว
ส่วนนโยบายการนำน้ำมันปาล์มไปผสมเป็นไบโอดีเซลนั้น นายจุรินทร์ กล่าวว่า ยังเป็นนโยบายสำคัญที่จะเข้ามาช่วยพยุงราคา โดยจะมีการปรับสัดส่วนเพิ่มขึ้นเพื่อลดปริมาณน้ำมันปาล์มดิบให้อยู่ในระดับสมดุล นอกจากนี้ยังมีมาตรการอื่นๆ เช่น ห้ามนำเข้าทางบกเพื่อป้องกันการลักลอบนำเข้า, จัดสรรไปเป็นเชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้าของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) , ส่งเสริมการส่งออกไปอินเดียเพิ่มขึ้นกว่า 400%, การประกันรายได้หากราคาต่ำกว่ากิโลกรัมละ 4 บาท
สำหรับแนวโน้มราคาในอนาคตน่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังอินโดนีเซียมีการปรับการอุดหนุน, เพิ่มสัดส่วนการใช้ผลิตไบโอดีเซลในประเทศจาก B30 เป็น B35, กำหนดสัดส่วนการส่งออกลดลงจาก 8:1 เป็น 6:1 และในอนาคตกลุ่มสหภาพยุโรป (อียู) จะเพิ่มมาตรการกีดกันทางการค้ากรณีการปลูกปาล์มในพื้นที่บุกรุกป่า ซึ่งได้เตรียมการแก้ไขปัญหาในเรื่องนี้ไว้แล้ว