ธปท.คาดมาตรการกระตุ้นศก.ทำรัฐเสียรายได้แต่ GDP ปี 51-52 โตอีก 0.1-0.2%

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday April 10, 2008 17:26 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          น.ส.ฐิติมา ชูเชิด เศรษฐกรอาวุโส  ฝ่ายเศรษฐกิจในประเทศ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า มาตรการภาษีเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่รัฐบาลประกาศออกมา ทำให้รัฐบาลจะสูญสียรายได้จากการจัดเก็บภาษีประมาณ 48,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นวงเงินที่สามารถสร้างรถไฟฟ้าสีม่วงได้ 1 สาย แต่จะมีผลให้อัตราขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศในปี 51-52 สูงขึ้นจากที่คาดการณ์ไว้เดิมประมาณ 0.1-0.2% 
มาตรการที่สำคัญและมีผลอย่างมาก คือ การยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับรายได้ไม่เกิน 150,000 บาท/ปี, การเพิ่มค่าลดหย่อนการซื้อหน่วยลงทุนในกองทุน LTF/RMF, มาตรการหักค่าเสื่อมราคาได้มากขึ้นในปีแรกสำหรับเครื่องจักรและอุปกรณ์ที่ซื้อในช่วงปี 51-52 รวมทั้ง การลดภาษีธุรกิจเฉพาะให้ผู้ขายอสังหาริมทรัพย์เพื่อการค้า และลดภาษีธุรกิจเฉพาะการโอนอสังหาริมทรัพย์
ส่วนมาตรการอื่นใน 16 มาตรการจะมีผลทางอ้อมโดยเฉพาะทางจิตวิทยา
“ รัฐมี 2 ทางเลือกคือ การใช้เงินตัวเองอัดฉีด หรือให้คนและธุรกิจประหยัดภาษีและนำเงินนั้นไปบริโภค ซึ่งมันคุ้มค่าทาง GDP แม้ตัวเลขจะไม่สูง แต่มันมีผลทางด้านจิตวิทยาในระยะต่อไปการบริโภค การลงทุนจะเร่งตัวขึ้น" น.ส.ฐิติมาระบุ
น.ส.ฐิติมา กล่าวด้วยว่า รัฐบาลสามารถทำงบประมาณขาดดุลในปีต่อไปได้สูงถึง 2-3% ของ GDP เนื่องจากการทำงบประมาณขาดดุลปี 52 ที่ 2.5% ของ GDP อยู่ภายใต้สัดส่วนหนี้สาธารณะที่ 40% ของ GDP ยังเอื้อที่จะขาดดุลเพิ่มขึ้นได้ แต่จะต้องคำนึงถึงผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจที่จะได้รับ โดยเฉพาะการปรับปรุงระบบขนส่งเพื่อลดการพึ่งพาพลังงานโดยเฉพาะน้ำมัน หรือการจัดสรรทรัพยากร

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ