ดอลล์อ่อนค่าที่ตลาดออสเตรเลียเช้านี้ หลังแกว่งตัวผันผวนเมื่อคืนนี้

          ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐเคลื่อนไหวอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินสำคัญที่ตลาดปริวรรตเงินตราออสเตรเลียเช้าวันนี้ (11 เม.ย.) หลังจากที่ค่าเงินดอลลาร์เคลื่อนตัวอย่างผันผวนเมื่อคืนที่ผ่านมา ซึ่งเงินดอลลาร์ดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโรก่อนที่จะดีดตัวขึ้นทันทีที่ธนาคารกลางยุโรปกล่าวแถลงการณ์ในที่ประชุมเมื่อวานนี้ 
          สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า ณ เวลา 07.50 น. ตามเวลาในประเทศไทย ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงแตะที่ 101.88 เยนต่อดอลลาร์จากระดับ 101.95 เยนต่อดอลลาร์ ขณะที่ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นแตะที่ 1.5763 ดอลลาร์สหรัฐต่อยูโร จากระดับ 1.5742 ดอลลาร์ต่อยูโร               
          โดยเงินยูโรแข็งค่าแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ระดับ 1.5914 ดอลลาร์ต่อยูโร เนื่องจากตลาดคาดว่านายฌอง-คล้อด ทริเชต์ ประธานธนาคารกลางยุโรปจะยังคงใช้นโยบายเชิงรุกในการแก้ปัญหาทางการเงิน หลังจากที่ธนาคารกลางได้ตัดสินใจตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 4.0% ในที่ประชุมเมื่อวานนี้
          แต่เงินสกุลเงินในแต่ละประเทศของทวีปยุโรปกลับอ่อนค่า หลังจากที่ทริเชต์เตือนว่า สถานการณ์ความตึงเครียดในตลาดเงินอาจยืดยื้อยาวนานและส่งผลร้ายแรงต่อเศรษฐกิจในเขตยูโรโซนมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ในก่อนหน้านี้ ขณะที่เงินยูโรอ่อนค่าลงไปอยู่ที่ 1.5725 ดอลลาร์ต่อยูโร
          จอห์น นูนาน นักวิเคราะห์จากธอมสัน ไฟแนนเชียล ไอเอฟอาร์ มาร์เก็ตส์ กล่าวว่า เงินดอลลาร์ดีดตัวขึ้นทั่วทั้งกระดานจากถ้อยแถลงของนายทริเชต์และจากตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการในระหว่างว่างงานของสหรัฐที่ปรับตัวลดลงมากกว่าที่คาดการณ์ไว้มาก ขณะที่ตลาดไม่มีปฏิกิริยาต่อยอดขาดดุลการค้าของสหรัฐที่ย่ำแย่กว่าที่คาดการณ์
          นายนูนานกล่าวว่า ถ้อยแถลงของนายทริเชต์ที่เริ่มเปลี่ยนไปได้จุดกระแสคาดการณ์ให้ผู้ถือครองสกุลเงินยูโรมองว่า ECB อาจเปลี่ยนท่าทีด้านนโยบายในอนาคต จากวิกฤตสินเชื่อและเงินยูโรที่แข็งแกร่งซึ่งส่งผลกระทบด้านลบต่อเศรษฐกิจของประเทศในทวีปยุโรป
          "คำกล่าวที่ว่าความผันผวนในตลาดปริวรรตเงินตราได้ตอกย้ำกระแสคาดการณ์ว่าที่ประชุมจี7 ซึ่งจะเปิดฉากขึ้นในวันนี้จะหยิบยกประเด็นเงินยูโรแข็งค่าขึ้นมาหารือในที่ประชุมดังกล่าว"