นายพจน์ อร่ามวัฒนานนท์ รองประธานกรรมการหอการค้าไทย และประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์การค้าและการลงทุน สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตามที่นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ ได้นำคณะเดินทางเยือนประเทศเบลเยียมในวันนี้ เพื่อประชุมทวิภาคีกับสหภาพยุโรป ในการรื้อฟื้นการเจรจาความตกลงการค้าเสรี (Free Trade Agreement: FTA) ไทย-อียู (สหภาพยุโรป)
สภาหอการค้าฯ เห็นว่าการเจรจาดังกล่าวมีความสำคัญมาก หากประสบความสำเร็จจะทำให้เกิดประโยชน์กับทั้ง 2 ฝ่าย ดังนี้
1. หลังจากที่ประเทศไทยถูกตัดสิทธิ GSP ตั้งแต่ปี 2558 ทำให้การค้า การลงทุนของไทยในอียูเติบโตไม่มากนัก เนื่องจากสูญเสียความสามารถในการแข่งขันทางการค้า ซึ่งหากการเจรจาครั้งนี้บรรลุข้อตกลง และประสบความสำเร็จ จะทำให้การค้า การลงทุนของทั้ง 2 ประเทศขยายตัวอย่างมาก
2. สินค้าส่งออกของไทยมีโอกาสขยายตลาดการส่งออกไปยังตลาดอียูมากขึ้น อาทิ สินค้าเกษตรและอาหารซึ่งเป็นธุรกิจหลักของไทย หรือ "ครัวของโลก" ยานยนต์และชิ้นส่วน เครื่องนุ่มห่มและสิ่งทอ เคมีภัณฑ์ พลาสติก
3. นักลงทุนไทยมีโอกาสเข้าไปลงทุนในอียูมากขึ้น อาทิ อุตสาหกรรมปิโตรเคมี ค้าปลีก เกษตรและอาหาร ในขณะเดียวกัน สามารถดึงดูดนักลงทุนอียูเข้ามาลงทุนในไทยได้มากขึ้น อาทิ การขนส่งทางทะเล การเงิน การประกันภัย ธุรกิจพลังงานสะอาด การศึกษา และการวิจัยทางวิทยาศาสตร์
4. ในด้าน GDP ของไทย หากการเจรจา FTA ไทย-อียู ประสบความสำเร็จ คาดว่าจะขยายตัวในระยะยาว 1.28% คิดเป็นมูลค่า 2.05 แสนล้านบาทต่อปี การส่งออกของไทยไปอียู เพิ่มขึ้น 2.83% หรือ 2.16 แสนล้านบาทต่อปี และการนำเข้าจากอียูเพิ่มขึ้น 2.81% หรือ 2.09 แสนล้านบาทต่อปี
ด้าน นายชนินทร์ ชลิศราพงศ์ ประธานคณะกรรมการเจรจาความตกลงการค้าระหว่างประเทศ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ในกรณีการเจรจา FTA ไทย-อียู อาจจะมีบางหน่วยงานที่มีข้อกังวล ในประเด็นต่างๆ อาทิ ทรัพย์สินทางปัญญา มาตรการคุ้มครองพันธุ์พืช UPOV1991 มาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อมและแรงงาน อย่างไรก็ตาม หน่วยงานเหล่านี้สามารถเข้ามามีส่วนร่วมและเสนอข้อคิดเห็น ตั้งแต่ก่อนการเจรจาและในระหว่างการเจรจาได้ เพื่อรักษาผลประโยชน์ของประเทศ
สภาหอการค้าฯ หวังเป็นอย่างยิ่ง ที่จะให้การเจรจาประสบความสำเร็จ ซึ่งจะช่วยให้ไทยสามารถรักษาส่วนแบ่งตลาดในสหภาพยุโรป ส่งเสริมเทคโนโลยีและ know-how ต่างๆ ทำให้การค้าและการลงทุน ของทั้ง 2 ฝ่ายขยายตัวมากยิ่งขึ้น