นายอุดม ศรีสมทรง รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า คณะอนุกรรมการกำกับดูแลและกำหนดเกณฑ์กลางอ้างอิงโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ได้พิจารณาราคาเกณฑ์กลางอ้างอิง และการชดเชยส่วนต่างราคา ตามโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2565/66 งวดที่ 16 สำหรับเกษตรกรที่แจ้งวันเก็บเกี่ยวระหว่างวันที่ 21-27 ม.ค. 66
ทั้งนี้ ราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงสูงกว่าราคาประกันรายได้เกือบทุกชนิดข้าว โดยมีเพียงข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ ซึ่งมีเกณฑ์กลางตันละ 13,656.68 บาท ที่เกษตรกรจะได้รับชดเชยส่วนต่างตันละ 343.32 บาท ได้รับชดเชยสูงสุด ครัวเรือนละ 5,493.12 บาท
นายอุดม กล่าวว่า การจ่ายเงินชดเชยส่วนต่างในงวดที่ 16 ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จะโอนเงินเข้าบัญชีเกษตรกรโดยตรงภายใน 3 วันทำการ หรือภายในวันที่ 1 ก.พ.66
สำหรับในงวดที่ 1-15 ที่ผ่านมา จ่ายส่วนต่างแล้ว 2.59 ล้านครัวเรือน วงเงิน 7,844 ล้านบาท ในส่วนของการจ่ายเงินช่วยเหลือค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว (ไร่ละพันบาท) ธ.ก.ส. ได้โอนเงินให้เข้าบัญชีเกษตรกรแล้วกว่า 4.61 ล้านครัวเรือน
ทั้งนี้ การโอนเงินยังคงมีกรณีโอนเงินไม่สำเร็จ จากปัญหาด้านบัญชีเงินฝาก จึงขอให้เกษตรกรตรวจสอบบัญชีเงินฝากและติดต่อกับ ธ.ก.ส เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในการรับเงินชดเชยส่วนต่างตามโครงการ เช่น กรณีปัญหา ชื่อ-สกุล ไม่ตรง บัญชีปิด บัญชีถูกอายัด หรือหากยังไม่มีบัญชีเงินฝากกับ ธ.ก.ส. ขอให้เกษตรกรติดต่อเปิดบัญชีใหม่กับ ธ.ก.ส. สาขาในพื้นที่ เพื่อ ธ.ก.ส. จะได้ดำเนินการโอนเงินให้แก่เกษตรกรได้ต่อไป
สำหรับข้าวเปลือกเจ้า ข้าวเปลือกปทุมธานี และข้าวเปลือกเหนียว มีราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงสูงกว่าราคาประกัน ดังนี้
- ข้าวเปลือกปทุมธานี เกณฑ์กลางตันละ 11,177.49 บาท
- ข้าวเปลือกเจ้า เกณฑ์กลางตันละ 10,081.45 บาท
- ข้าวเปลือกเหนียว เกณฑ์กลางตันละ 12,553.52 บาท
สำหรับข้าวเปลือกหอมมะลิ ไม่มีราคาเกณฑ์กลางอ้างอิง เนื่องจากสิ้นสุดฤดูเก็บเกี่ยวแล้ว
สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย ให้ข้อมูลว่า ขณะนี้ยังมีความต้องการข้าวขาวอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะจากประเทศอิรัก ส่งผลให้ราคาข้าวขาวปรับตัวสูงขึ้นในช่วงที่ผ่านมา รวมถึงข้าวหอมปทุมธานี ที่ปรับตัวสูงขึ้นจากความต้องการแทนข้าวหอมมะลิที่ราคาส่งออกเพิ่มสูงขึ้น
ทั้งนี้ สำหรับเป้าหมายการส่งออกในปี 2566 นี้ สมาคมฯ ยังตั้งเป้าไว้ไม่ต่ำกว่าปีที่ผ่านมาที่ 7.5 ล้านตัน อย่างไรก็ตาม ยังคงรอดูสถานการณ์การปรับตัวของค่าเงินบาท ซึ่งขณะนี้ยังคงแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง
รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมการค้าภายใน ได้เพิ่มการติดตามดูแลการซื้อขายข้าวเปลือก ทั้งในเรื่องของการปิดป้ายแสดงราคารับซื้อ รวมทั้งตรวจสอบความถูกต้องของเครื่องชั่งน้ำหนัก และเครื่องวัดความชื้น ซึ่งหากพบเห็นว่าท่าข้าวหรือโรงสีใด ไม่ปิดป้ายแสดงราคารับซื้อ กดราคารับซื้อ โกงน้ำหนัก หรือมีพฤติกรรมใดๆ ที่เป็นการเอาเปรียบชาวนา สามารถร้องเรียนได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน โทร 1569