บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองทิศทางดัชนีหุ้นไทยในสัปดาห์หน้า (30 ม.ค.-3 ก.พ.) มีแนวรับอยู่ที่ 1,665 และ 1,650 จุด ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 1,690 และ 1,700 จุด ตามลำดับ โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ การประชุมเฟด ผลประกอบการงวดไตรมาส 4/65 ของบจ.ไทย รวมถึงทิศทางเงินทุนต่างชาติ (Flow) ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนี PMI ตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชน ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร อัตราการว่างงานเดือนม.ค. รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศอื่นๆ ได้แก่ การประชุม ECB และ BOE ดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนม.ค. (เบื้องต้น) และตัวเลขจีดีพีไตรมาส 4/65 (เบื้องต้น) ของยูโรโซน
ดัชนีตลาดหุ้นไทยฟื้นตัวกลับมาได้ช่วงปลายสัปดาห์ ทั้งนี้หุ้นไทยขยับขึ้นช่วงสั้นๆ ต้นสัปดาห์จากแรงซื้อหุ้นแบงก์รายตัว ก่อนจะแกว่งตัวในกรอบแคบระหว่างสัปดาห์เนื่องจากไร้ปัจจัยใหม่ๆเข้ามาหนุนประกอบกับตลาดรอติดตามผลการประชุมกนง. หุ้นไทยร่วงลงในเวลาต่อมาโดยเผชิญแรงกดดันจากหุ้นกลุ่มพลังงานจากผลประกอบการของบริษัทรายใหญ่บางแห่งออกมาต่ำกว่าคาด และหุ้นกลุ่มไฟแนนซ์จากความกังวลเรื่องต้นทุนทางการเงิน หลังกนง. มีมติปรับขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่อง อย่างไรก็ดี หุ้นไทยฟื้นตัวกลับมาได้บางส่วนช่วงปลายสัปดาห์ตามทิศทางหุ้นต่างประเทศ หลังตัวเลขจีดีพีไตรมาส 4/65 ของสหรัฐฯ ออกมาดีกว่าตลาดคาด ประกอบกับมีแรงซื้อคืนหุ้นกลุ่มแบงก์ช่วยหนุน
ในวันศุกร์ (27 ม.ค.) ดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,681.30 จุด เพิ่มขึ้น 0.24% จากระดับปลายสัปดาห์ก่อน ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 59,444.25 ล้านบาท ลดลง 2.38% จากสัปดาห์ก่อน ส่วนดัชนี mai เพิ่มขึ้น 1.32% มาปิดที่ระดับ 602.60 จุด