นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ยอดรวมการใช้สิทธิลดภาษีเพื่อส่งออกภายใต้ความตกลงการค้าเสรีขยายตัวดีต่อเนื่อง ช่วยผลักดันให้มูลค่าการค้าไทยพุ่ง โดยตั้งเป้าค้าชายแดน-ผ่านแดนปีนี้ ทะลุ 1.06 ล้านล้านบาท
สำหรับความเคลื่อนไหวด้านการใช้สิทธิลดภาษีเพื่อส่งออก ภายใต้ความตกลงการค้าเสรี (FTA) จำนวน 12 ฉบับ ในปี 65 มีมูลค่ารวม 84,633.16 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 10.90% และมีสัดส่วนการใช้สิทธิ 82.11% ซึ่งมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และสินค้าสำคัญที่มีมูลค่าการส่งออกเพิ่มขึ้น ได้แก่ ยานยนต์สำหรับขนส่งของ (น้ำหนักรถรวมน้ำหนักบรรทุกไม่เกิน 5 ตัน) ทุเรียนสด และเนื้อไก่และเครื่องในไก่ที่ปรุงแต่ง เป็นต้น
กรอบความตกลงที่มีการใช้สิทธิ FTA สูงสุด 5 อันดับ ได้แก่ (1) อาเซียน ยังคงครองแชมป์ โดยมีมูลค่า 30,793 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 17.17% (2) อาเซียน-จีน (ACFTA) มูลค่า 26,290 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 3.80% (3) ไทย-ญี่ปุ่น (JTEPA) มูลค่า 6,723 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 0.47% (4) ไทย-ออสเตรเลีย (TAFTA) มูลค่า 6,040 ล้านดอลลาร์ หดตัวลงเล็กน้อย 1.90% และ (5) อาเซียน-อินเดีย (AIFTA) มูลค่า 5,723 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 30.76%
ขณะที่ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) ในปี 2565 มีการส่งออกไปยัง 8 ประเทศ คือ ญี่ปุ่น จีน เกาหลี ออสเตรเลีย สิงคโปร์ นิวซีแลนด์ มาเลเซีย และเวียดนาม มีมูลค่าการใช้สิทธิฯ รวม 994.77 ล้านดอลลาร์ โดยมีสินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ น้ำมันหล่อลื่น (เกาหลีใต้) ปลาทูน่ากระป๋อง ปลาสคิปแจ็ค และปลาโบนิโต ชนิดซาร์ดา (ญี่ปุ่น) มันสำปะหลังเส้น (จีน) เป็นต้น
ส่วนการใช้สิทธิประโยชน์ภายใต้สิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรเป็นการทั่วไป (GSP) ที่ได้รับสิทธิประโยชน์จากสหรัฐอเมริกา สวิตเซอร์แลนด์ นอร์เวย์ และกลุ่มประเทศในเครือรัฐเอกราช ในช่วงเดือน ม.ค.-พ.ย.65 มีมูลค่ารวม 3,472.61 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 3.76% คิดเป็นสัดส่วนการใช้สิทธิ 54.85% โดยตลาดสหรัฐอเมริกา ครองแชมป์ มีมูลค่าการใช้สิทธิถึง 3,200.09 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 4.18%
สินค้าที่มีมูลค่าการใช้สิทธิ GSP สูง ได้แก่ ส่วนประกอบของเครื่องปรับอากาศอื่นๆ ถุงมือยาง อาหารปรุงแต่ง กรดมะนาว หรือกรดซิทริก เลนส์แว่นตาทำจากวัสดุอื่น ๆ ที่ไม่ใช่แก้ว หีบเดินทางขนาดใหญ่ กระเป๋าใส่เสื้อผ้า หลอดหรือท่อทำด้วยทองแดงบริสุทธิ์ ไร้รอยต่อ ส่วนประกอบและอุปกรณ์ยานยนต์ ระบบส่งกำลังอื่นๆ ภายใต้พิกัด 8701 และ 8702-8705 และพลาสติกอื่น ๆ ตามลำดับ
อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวว่า แม้โครงการ GSP สหรัฐฯ ได้สิ้นสุดอายุไปเมื่อวันที่ 31 ธ.ค.63 และขณะนี้สหรัฐฯ อยู่ระหว่างการดำเนินขั้นตอนการต่ออายุโครงการฯ ส่งผลให้ผู้นำเข้าสินค้าที่เคยได้รับสิทธิ GSP สหรัฐฯ จะต้องชำระภาษีในอัตราปกติ (MFN rate) ไปจนกว่าโครงการฯ จะได้รับการต่ออายุ แต่เพื่อเป็นการรักษาสิทธิฯ ผู้นำเข้าสามารถยื่นขอใช้สิทธิ GSP ในการนำเข้าสินค้าได้ตามปกติ โดยที่ผ่านมา สหรัฐฯ จะทำการคืนภาษีเมื่อโครงการฯ ได้รับการต่ออายุแล้ว
ส่วนการส่งออกผ่านการค้าชายแดนและผ่านแดนในปี 2566 ได้ตั้งเป้าไว้ที่ 1,060,732 ล้านบาท หรือโตเพิ่ม 3% จากปี 2565 โดยมีแผนผลักดันให้เป็นไปตามเป้า ได้แก่ (1) แก้ปัญหาการค้าชายแดนและผ่านแดนร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ผ่านการลงพื้นที่และติดตามการแก้ไขปัญหาอย่างใกล้ชิด (2) จัดมหกรรมการค้าชายแดนในพื้นที่จังหวัดชายแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน (3) บูรณาการร่วมกับจังหวัดชายแดน เพื่อผลักดันการเปิดจุดผ่านแดนให้สามารถขนส่งสินค้าได้ครบทุกจุด
นอกจากนี้ กรมฯ ยังเร่งผลักดันการส่งออกสินค้าเกษตรสำคัญต่างๆ เพื่อเพิ่มมูลค่าการค้าของไทยในปี 2566 โดยในส่วนของสินค้าข้าว ตั้งเป้าการส่งออกทั้งปีไว้ที่ 7.5 ล้านตัน หลังจากในปี 2565 มีปริมาณการส่งออกรวมอยู่ที่ 7.69 ล้านตัน โดยมีแผนการจัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อผลักดันการส่งออกข้าวให้เป็นไปตามเป้า อาทิ การจัดงานประชุมข้าวนานาชาติ (Thailand Rice Convention 2023) การจัดคณะผู้แทนการค้าภาครัฐและเอกชนเยือนประเทศคู่ค้าสำคัญต่างๆ และจัดประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ข้าวไทยในตลาดต่างประเทศ เป็นต้น
ในส่วนสินค้ามันสำปะหลัง และผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ตั้งเป้าการส่งออกทั้งปีไว้ที่ 9 ล้านตัน โดยในปี 2565 มีปริมาณการส่งออกรวม 11.18 ล้านตัน ซึ่งในปี 2566 มีแผนเจาะตลาดเป้าหมาย ได้แก่ จีน EU ตุรกี นิวซีแลนด์ อินเดีย เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และซาอุดิอาระเบีย และมีกำหนดจัดงานมันสำปะหลังโลก (World Tapioca Conference 2023) ประมาณต้นเดือน มี.ค.66